“สุริยะใส” ระบุเลือกผู้ว่าฯ กทม.ชี้ขาดที่นโยบาย ใครจะกระตุก "พลังเงียบ"ออกไปโหวตได้มากกว่า วิเคราะห์ “สุขุมพันธุ์”ยังเป็นรอง
วันนี้ (27 ม.ค.) นายุสริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงแนวโน้มการหาเสียงผู้ว่ากทม.ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า ตนค่อนข้างมั่นใจว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด มีการเล่นนอกกติกาหรือทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะมีผู้สมัครที่มีคะแนนนิยมสูสีระหว่างม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งโอกาสที่ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะรักษาเก้าอี้ไว่ได้อีกสมัยนั้นไม่ง่ายนัก เพราะชัยชนะจากครั้งที่แล้ว 9 แสนกว่าคะแนน ชนะนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที่ได้ 6 แสนกว่าคะแนน ต้องยอมรับว่าช่วงนั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลใหม่ๆย่อมได้เปรียบคู่แข่ง แต่ครั้งนี้คู่แข่งกลับมาเป็นตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรครัฐบาลและสถานการณ์พรรคเพื่อไทยวันนี้แข็งแกร่งกว่าปี52
นายสุริยะใส กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ ยังสร้างภาพลักษณ์ที่โดนใจ ใหม่กว่า สดกว่า จนอาจจะได้รับโอกาสจากคนกลางๆ
และการเมืองไทยในช่วงหลังปฏิเสธไม่ได้ว่าการตลาดทางการเมืองเป็นตัวแปรสำคัญ ส่วนผลงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ผ่านมาอาจไม่เพียงพอที่จะรักษาแชมป์ได้ หากพรรคประชาธิปัตย์จะหวังแค่9แสนคะแนนเท่าเดิมอาจจะไม่ชนะต้องมากกว่านั้น และเชื่อว่าตัวแปรจะอยู่ที่นโยบายใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯได้จริงและโดนใจสามารถดึงพลังเงียบออกไปโหวตได้เพราะ ที่ผ่านมานโยบายผู้สมัครไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่ออกไปลักษณะประชานิยมเหมือนกันหมด ยังไม่มีใครกล้าเสนอนโยบายที่จะนำไปสู่การปฏิรูปกรุงเทพฯ เพื่อนับหนึ่งหรือเป็นเมืองโมเดลของการปฏิรูปประเทศไทยต่อไป
สำหรับ ผู้สมัครอิสระแม้คะแนนนิยมจะยังค่อนข้างตามหลังอยู่ห่าง แต่ก็ถือว่ายังไม่หมดโอกาส ถ้าออกนโยบายและการเคมเปญที่สามารถกระตุกพลังเงียบได้มากกว่านี้.