มติเอกฉันท์ ส่ง “พงศพัศ” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.

วันนี้ (13 ม.ค.)ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน ภายหลังการประชุมนายจารุพงศ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคร่วมแถลงโดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ได้มีการเสนอชื่อพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรายชื่อเดียว ซึ่งที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ส่งพล.ต.อ.พงศพัศ ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.พร้อมแต่งตั้งนายภูมิธรรม เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีมติส่งนายพหล วรปัญญา ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลพบุรี เขต 4 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 9 ก.พ. ให้นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานภาคกลาง โซน 3 เป็นผอ.เลือกตั้ง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกพล.ต.อ.พงศพัศ เนื่องจากมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นนายตำรวจที่คลุกคลีกับประชาชน ซึ่งเช้าวันที่ 15 ม.ค.พล.อ.ต.พงศพัศนี้จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จากนั้นจะเปิดตัวเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคอย่างเป็นทางการ และเป็นโอกาสที่พล.ต.อ.พงศพัศจะพูดความในใจพร้อมกับเปิดตัวนโยบายสำหรับการเลือกตั้ง สิ่งสำคัญคือข้อเสนอการบริหารจัดการปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและผู้สมัครที่พรรคเลือกจะประสานงานระหว่างท้องถิ่นคือกทม.กับรัฐบาลในการแก้ปัญหาของ กทม. สามารถตอบสนองต่อแนวนโยบายการบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ส่วนทีมรองผู้ว่าฯ กทม.จะเปิดตัวในวาระโอกาสต่างๆ หลังจากนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้อยู่ในทีมงานที่จะช่วยเรื่องการเมืองการเลือกตั้งด้วย สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้ามาช่วยดูเรื่องนโยบาย จึงเป็นสิ่งยืนยันว่าไม่มีปัญหา ทุกคนช่วยกันทำงานเต็มที่

นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า กองอำนวยการการเลือกตั้งจะทำงานร่วมกับกรรมการทุกส่วนภายในพรรค ไม่ว่าจะเป็นกรรมการทั้ง 3 โซนของ กทม. กรรมการยุทธศาสตร์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่ปรึกษา อย่างไรก็ตามจากผลโพลล์ของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนใน กทม.ทำให้พรรคมีความมั่นว่าผู้สมัครที่พรรคเลือกเป็นบุคคลซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนและมีศักยภาพ ขณะที่นโยบายจะมีทั้งนโยบายภาพรวมสำหรับ กทม.และนโยบายย่อยเฉพาะลักษณะพื้นที่