บิ๊กสงค์ จวกนักการเมืองแก้ รธน.เพื่อตัวเอง!
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้ แต่ต้องแก้ไขเป็นรายมาตรา และผู้ที่มีอำนาจในการแก้ไขจะมีอยู่ 4 พวก คือ
1.คณะรัฐมนตรี (ครม.)
2.สภาผู้แทนราษฎร
3.สภาผู้แทนราษฎรผสมวุฒิสภา
4.ประชาชนลงชื่อ
5 หมื่นชื่อ และต้องบอกให้ชัดเจนว่า จะแก้ไขมาตราไหนอย่างไร ซึ่งหากจะแก้ไขเพื่อประโยชน์ส่วนรวมก็สามารถแก้ไขได้เลย แต่ยกเลิกทั้งฉบับไม่ได้
โดยเฉพาะมาตรา 165 ที่ระบุว่า ในการทำประชามติใด หากเป็นเรื่องที่ขัดแย้ง ไม่ถูกต้องตามแนวทางรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ จะกระทำมิได้ ฉะนั้น เรื่องที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา หรือจะทำประชามติเพื่อแก้ไขทั้งฉบับนั้น ก็ยังมีปัญหาอยู่ และการทำประชามติอยากให้บุคคลที่จะทำต้องระมัดระวังว่า สิ่งที่เสนอไปนั้นจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ได้ รวมถึงการตั้งคำถามในการทำประชามติ ต้องไม่ขัดแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งการทำประชามติต้องกำหนดวันให้แน่นอน และต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า การแก้ไขของนักการเมือง น้ำหนักส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขเพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรือพวกพ้อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือนักโทษหนีคุกให้กลับบ้านอย่างไร้มลทิน ซึ่งหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.309 ได้ตามต้องการแล้ว ก็จะมีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไป รวมถึงการแก้ไขอีกหลายประเด็น เช่น การแก้ไข ม.237 เรื่องการยุบพรรค ที่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรค