รัฐยันปี 56 เร่งสานต่อความปรองดอง

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่วงแรกได้มีการเสนอสกู๊ปพิเศษ รายงานผลสำเร็จในการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน16 ข้อที่สัญญาไว้กับประชาชน

           อาทิ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย ผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการ เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และนำสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับนานาประเทศ ขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงประชาคมอาเซียน แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน และผู้ประกอบการเนื่องจากเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ยกระดับชีวิตของประชาชน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เป็นต้น

           จากนั้นเนื้อหาของสกู๊ปพิเศษ ได้ระบุถึงก้าวต่อไปของรัฐบาลที่จะนำประเทศไทยสู่อนาคตที่มั่นคงในปี 2556 ซึ่งเป็นปีแห่งการคิดบวกว่า รัฐบาลเตรียมนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ความมั่นคง

           โดยเริ่มจาก 1.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วางรากฐานประเทศเติบโตยั่งยืน อาทิ บริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง สร้างไทยเป็นศูนย์กลางการติดต่อของอาเซียน การจัดโซนนิ่งและวางผังเมือง ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตร และสร้างความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน พัฒนาแบรนด์ประเทศไทยให้เป็น “โมเดิลไทยแลนด์”

           2.เพิ่มคุณภาพชีวิต ศักยภาพ และโอกาสที่เท่าเทียมของประชาชน อาทิ ยกระดับมาตรฐานการศึกษา และยกระดับฝีมือแรงงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตเพิ่มการเข้าสู่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน พัฒนาระบบสาธารณสุข ดูแลประชาชนตามช่วงชีวิต พัฒนาการเมือง การปกครอง การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

           3.พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นจากนานาชาติ โดย เพิ่มบทบาทประเทศไทยในเวทีโลก กระชับความสัมพันธ์ในอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อขยายการค้าการลงทุน และ
 
           4.การสานต่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยการสนับสนุนระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และให้ความเป็นธรรมทุกคนอย่างเท่าเทียม