แฉซ้ำพฤติกรรม เยาวเรศ ใช้วุฒิปลอม-ทุจริตคาร์ปาร์ก

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2549 15:26 น.

อลงกรณ์ หอบเอกสารแฉ เยาวเรศ ปลอมวุฒิการศึกษา จนถูก มสธ.เพิกถอนสถานภาพ จี้ลาออกตำแหน่งประธานสภาสตรีฯ เชื่อเป็นหลักฐานเด็ด ชี้ให้ศาลเห็นพฤติกรรมทุจริตน้องสาวนายกฯ

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรก ในคดีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางเยาวเรศ ชินวัตร ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานฟ้องเท็จ กรณีที่นางเยาวเรศยื่นฟ้องนายอลงกรณ์ และหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังจากที่นายอลงกรณ์ออกมาเปิดเผยข้อมูลการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยกล่าวหานางเยาวเรศกับพวกเรียกรับสินบนจำนวน 25 ล้านบาท จากนายลัทธพล เกษโกทิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ลัทธ์เฟอร์ไทย จำกัด

โดยในวันนี้ นายอลงกรณ์ขึ้นเบิกความด้วยตนเอง พร้อมนำหลักฐานเป็นวีซีดีบันทึกภาพของนายลัทธพลที่เปิดเผยการวิ่งเต้นโครงการ และเอกสารการเบิกถอนเงินจากธนาคารของนายลัทธพล ให้ศาลพิจารณา อย่างไรก็ตาม การไต่สวนยังไม่แล้วเสร็จ ศาลจึงมีคำสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์อีกครั้งในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 09.00 น.

ภายหลัง นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ได้นำเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายเงินของนายลัทธพล จากธนาคารกสิกรไทย สาขาสะพานพุทธ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2546 จำนวน 5 ล้านบาท และหลักฐานเบิกจ่ายเงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางขุนเทียน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2546 จำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเป็นสินบนค่าวิ่งเต้นการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถ ของสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ศาลประกอบการพิจารณา

นายอลงการณ์ กล่าวว่า ในวันนี้ยังได้นำประกาศเรื่องถอนสภาพการเป็นนักศึกษาของนางเยาวเรศ ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เนื่องจากปลอมแปลงวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัย เสนอต่อศาล โดยประกาศดังกล่าวระบุว่า มหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบหลักฐานการสมัครเรียนของนางเยาวเรศ สาขาวิชาวิทยาการจัดการ 4 ปี พบว่า เดิมนางเยาวเรศใช้วุฒิมัธยมปลาย ต่อมาขอเปลี่ยนเป็นวุฒิ ปวส.จากโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จากการตรวจสอบไปทางโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต พบว่า นางเยาวเรศ โอนหน่วยกิตมาจากโรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 110 หน่วยกิต และมาศึกษาต่อเพิ่มอีก 10 หน่วยกิต เมื่อตรวจสอบกลับไปยังโรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานี กลับไม่ปรากฏชื่อของนางเยาวเรศเป็นนักศึกษา ทางมหาวิทยาลัยจึงได้ถอดสถานการเป็นนักศึกษาของนางเยาวเรศ

ก่อนเข้ามาตรวจสอบคดีสินบนคาร์ปาร์ก ไม่เชื่อว่าคนระดับน้องสาวนายกรัฐมนตรีจะกล้าเรียกรับสินบน แต่หลังจากตรวจสอบประวัติของนางเยาวเรศแล้ว พบว่าเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ และเกี่ยวข้องกับการทุจริตมาแล้วหลายครั้ง จึงอยากให้นางเยาวเรศพิจารณาตัวเองโดยการลาออกจากตำแหน่งประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกรรมการบริหารประธานสภาควรต้องรีบพิจารณาคุณสมบัติของนางเยาวเรศโดยด่วน ว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำสตรีของประเทศหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าว