หิน ลอง ทอง
หินลองทอง
คงได้ฟังการประกาศจุดยืนของ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" กันแล้วคงเห็นแววแล้วนะครับ...อนาคตนายกฯ คนต่อไปอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ความจริงแล้วหากเรื่องนี้มีการจัดการที่ดี
เหตุอย่างนี้คงไม่เกิดขึ้น
ใครที่ฟังคุณสมคิดพูดแล้วคงจะชัดถ้อยชัดคำ และสามารถตอบคำถามได้หลายอย่างซึ่งเป็นตัวตนของเขาในท่ามกลางความ "อึมครึม" ที่เกิดขึ้นตลอดมา และอย่าประเมินบุคคลคนคนนี้อย่างง่ายๆมิได้ เป็นอันขาด
การเปิดอกเปิดใจครั้งนี้ดูเหมือนจะทำให้คนไทยรู้จักคนคนนี้มากขึ้นมิใช่รู้กันแค่เปลือกเท่านั้น กรณีนี้ถือว่าเป็นวิบากกรรมของประเทศและวิบากกรรมของผู้ถูกกระทำก็แล้วกัน
แน่นอนว่าผู้ที่สนับสนุนและคัดค้านกรณีที่นายกฯ ตั้งนายสมคิดเข้ามาทำหน้าที่ชี้แจงในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เมื่อได้ฟังรายการเปิดอกครั้งนี้
คงเรียก "สติ" กลับคืนมาได้
พรรคการเมืองหรือนักการเมืองนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกอย่างล้วนเป็นเกม เอาแพ้เอาชนะทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าการที่นายสมคิดได้รับบทบาทจากรัฐบาลและคมช.จึงต้องตกเป็น "เป้า" โดยปริยาย
เพราะรู้มือกันดีว่าระดับไหน ระดับหัวหน้าพรรคการเมืองด้วยกันแล้วทาบลำบาก หากให้ "สมคิด" เกิดก็เท่ากับเปิดประตูให้คู่แข่งทางการเมืองได้โลดแล่นอย่างสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาธิปัตย์ซึ่งจะเป็นซีกหนึ่งทางการเมืองที่คิดว่าจะชนะเลือกตั้ง
"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกฯ คนต่อไป
แต่เมื่อรัฐบาลและ คมช.ไปหยิบ "สมคิด" ขึ้นมาเล่นก็เลยถูกอัดเละไปตามระเบียบและมีประเด็นความชอบธรรมที่จะนำมาอ้างได้ พูดง่ายๆจะเอาขุนพลเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดที่แล้วมาร่วมงานได้อย่างไร
"ทักษิโณมิกส์" กับ "พอเพียง"" มันจะไปกันได้หรือ ผมยังเชื่อด้วยว่าพรรคการเมืองหรือนักการเมืองระดับนำอีกหลายคนก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ และนโยบายของแต่ละพรรคก็ไม่ได้มีแนวทางนี้อย่างเป็นรูปธรรม
เช่นกันอีกมุมหนึ่งคือในส่วนของลูกพรรคไทยรักไทยที่ลาออกมา และเตรียมที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่โดยเชื่อว่า "สมคิด" จะมาเป็นหัวหน้าพรรคซึ่งจะเป็นขั้วการเมืองอีกขั้วโดยปริยาย แต่เมื่อนายสมคิดยังไม่รับปากก็เลยโหยกันไปเลยทีเดียว
แต่วันนี้ได้ "สมคิด" เป็นหัวหน้าพรรคแน่ เพราะเท่าที่ฟังแล้วคงจะเล่นการเมืองและมุ่งหวังเป็นนายกฯ คนต่อไป
ลูกผู้ชายอย่าง "สมคิด" น่าจะไปสู่ฝั่งฝันได้
จริงๆแล้วเรื่อง "สมคิด" กับรัฐบาลชุดที่แล้ว หากมองภายนอกดูเหมือนจะไปกันราบรื่นเป็นปี่เป็นขลุ่ย แต่ความจริงแล้วทั้งขัดทั้งแย้งและมีความหวาดระแวงอย่างมาก
ประเด็นสำคัญนายสมคิดไม่ยอมเอื้ออาทรกับขบวนการทุจริตทั้งหลายในส่วนที่รับผิดชอบ แต่ในส่วนอื่นก็ว่ากันไปเพราะไม่สามารถจะทำอะไรได้ หรือหากจะทำกันเองก็ข้ามหัวอย่างไม่อีนังขังขอบ
ตรงไปตรงมาก็คือไปด้วยกันไม่ได้
ข้อสำคัญคือไม่ยอมพูดหรือนำความในใจออกมาพูดซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เกิดปัญหา ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจในเจตนาที่แท้จริง
ถ้านายกฯ และนายสมคิดออกมาแถลงข่าวร่วมกันในวันเปิดตัวที่มารับตำแหน่ง และเปิดอกเปิดใจอย่างนี้ไม่น่าจะเกิดอุปสรรคอย่างที่เกิดขึ้น
เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจและไม่เกิดแรงกดดันจนเกิดความแตกแยก
ยังมีเวลาที่จะเป็น "หินลองทอง"...ถ้าใจไม่เสาะไปเสียก่อน.
ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ
โดย คอลัมน์กล้าได้กล้าเสีย
จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ