“อภิชาต” เมินคำครหาช่วยรัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“อภิชาต” ไม่กลัวถูกกล่าวหาช่วยรัฐบาล จาการส่งเจ้าหน้าที่ร่วมหารือกับคณะทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล เชื่อการขอหารือของรัฐบาลเพราะต้องการให้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

“อภิชาต” เมินคำครหาช่วยรัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ


           เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต. ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ร่วมกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด และหน่วยงานภายในอาคารรัฐประศาสนภักดี หรืออาคารศูนย์ราชการฯ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2556


           นายอภิชาตเปิดเผยถึงการที่ กกต.มีมติให้เลขาธิการ กกต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ ไปรับทราบข้อหารือเบื้องต้น ตามที่นายวราเทพ รัตนากร ในฐานะเลขานุการคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ ซึ่งเชื่อว่าคณะทำงานจะสอบถามในเรื่องการทำประชามติ และตนเชื่อว่าหากได้มีการหารือกัน ก็คงจะได้ข้อยุติว่าจะมีการเสนออะไรให้ กกต.พิจารณาตัดสินใจ เพราะในหนังสือเชิญหารือที่ส่งมา ไม่ได้มีรายละเอียดอะไร และเมื่อมีการหารือแล้วคณะของเลขาธิการ กกต.ก็จะนำกลับมาให้ กกต.พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเรื่องการทำประชามตินายกรัฐมนตรีต้องหารือประธานสภา


            นายอภิชาตกล่าวอีกว่า การตอบรับและส่งเจ้าหน้าที่ กกต.ไปหารือกับคณะทำงานของรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่กลัวจะถูกมองว่า กกต.ช่วยรัฐบาล เพราะ กกต.ปฎิบัติตามกฎหมาย หนังสือเชิญก็เป็นเพียงลักษณะของการหารือ ว่า ทำอย่างไรให้ถูกต้อง เนื่องจากการทำประชามติให้งบประมาณตั้ง 2 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าจำนวนมาก ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ถูกต้อง
 
            เนื่องจากขณะนี้ยังมีความเห็นที่ต่างกันอยู่ ว่าทำได้หรือไม่ได้ เราจึงอยากได้หาข้อยุติก่อน และเมื่อคณะของเลขาฯ กกต.หารือแล้ว ก็ต้องนำกลับมารายงานต่อ กกต.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการทำประชามติ จะต้องใช้เสียงประชาชน 2 ส่วน คือ ขั้นแรกจะต้องมีประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกมาออกเสียงเกินครึ่งหนึ่ง และในจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงจะต้องเกินกึ่งหนึ่ง จึงจะถือว่าการทำประชามติผ่าน ซึ่งเรื่องการทำประชามติ กกต.ไม่หนักใจ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ที่สำคัญประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์มากแค่ไหน


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์