นครบาลสั่งรับมือวินาศกรรมกรุง-สกัดโจรใต้ป่วน23ก.พ.

พบข้อมูลมีกลุ่มบุคคลเตรียมเคลื่อนไหวก่อเหตุใน กทม. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ และวันมาฆบูชา ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือเหตุร้ายขั้นสูงสุด ป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุระเบิด 9 จุดทั่วกทม.ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์นายกรัฐมนตรี กล่าวในการพบปะสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลถึงเรื่องดังกล่าวว่า ต้องไม่ประมาท ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ต้องดูแล และตนเคยชี้แจงไปแล้วเมื่อเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549ว่าจำเป็นต้องร่วมมือและช่วยกันดูแล โดยเฉพาะความร่วมมือของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ

มาตรการรักษาความปลอดภัยในกทม.วันที่ 23 กุมภาพันธ์และวันมาฆบูชาว่า ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยระมัดระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น ตำรวจขณะนี้ไม่ได้ใส่เกียร์ว่างเหมือนเมื่อก่อน เห็นได้จากการทำงานที่ว่องไว ขยันขันแข็งตามท้องถนน

อย่างไรก็ตาม

เมื่อเกรงกันว่าจะมีเหตุระเบิดขึ้น ก็คาดเดากันไป แต่ทุกหน่วยก็พยายามหาข่าวและแจ้งเตือนประชาชนรวมถึงตำรวจให้คอยกวดขันดูแล สำหรับข่าวจากสันติบาลนั้น ต้องบอกว่า ข่าวก็คือข่าวไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ที่ผ่านมามีการแจ้งเตือนกันทุกวัน ยืนยันว่าโอกาสที่จะมีการวางระเบิดในกทม.นั้น ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น

มาตรการรักษาความปลอดภัยในกทม.หลังมีข่าวว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีเตรียมก่อเหตุร้ายระหว่างวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ว่า ไม่ควรตื่นตระหนก แต่เพื่อความไม่ประมาท ตำรวจวางแผนปฎิบัติการรองรับไว้แล้ว โดยเพิ่มกำลังตำรวจทุกพื้นที่ให้เข้มงวดในการออกตรวจตราพื้นที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง และประสานความร่วมมือกับประชาชนและสื่อมวลชน ในการแจ้งเบาะแสบุคคลต้องสงสัย

ก่อนหน้านี้ผบช.น.สั่งตำรวจประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงสัปดาห์ละครั้งเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ไม่หวังดี นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตำรวจสายตรวจทั้ง 88 สน.เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังพื้นที่สำคัญด้านความมั่นคงกว่า 1,000 แห่งทั่วกทม.

หลังมีกระแสข่าว ว่ากลุ่มวัยรุ่นใน 3 จังหวัดภาคใต้ประมาณ 30 คน เตรียมขื้นมาก่อเหตุในช่วงนี้ ขณะเดียวกัน ยังนำกล้องวงจรปิดไปติดตั้งในสถานที่สำคัญเพื่อช่วยเฝ้าระวังอีกทางด้วย และมีการฝึกอบรมหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มีทักษะเฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัยหรือ บุคคลต้องสงสัย

ยืนยันความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่กทม. โดยประชุมร่วมกับหน่วยงานทหารตำรวจและหน่วยข่าวกรองใกล้ชิด พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มงวด แม้ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันด้านการข่าวอย่างเป็นทางการ ว่าจะเกิดเหตุร้ายในกทม.หรือไม่ แต่โดยสถานการณ์ในภาคใต้ขณะนี้ กทม.คงไม่ประมาท

ปกติมีการเฝ้าระวังตลอดเวลา ไม่ได้ปล่อยปละละเลย แต่ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับการข่าวว่าจะมีการก่อเหตุร้ายในช่วงดังกล่าว