“อภิสิทธิ์”ซัดดีเอสไอหวังผลการเมือง

               นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางบลูสกาย แชนนอล ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเรียก 11 ผู้บริหาร กทม. และเอกชน สอบในความผิดฐานร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค คือ การต่อสัญญาให้บริษัท บีทีเอสซี บริหาร ส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส

            โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรมว.มหาดไทย ในช่วงที่อยู่ระหว่างการสรรหาตัวบุคคลจะมาสมัครเป็นผู้ว่า กทม. ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตนเข้าใจว่ามีการพูดกันชัดเจนแล้วว่า อำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ กับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) มีกฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดเจน และหลายกรณีที่พยายามจะสร้างกระแสเรื่องขึ้นมา

             สุดท้าย ดีเอสไอ ก็ยอมรับว่าตัวเองไม่มีหน้าที่ ต้องส่งให้ ป.ป.ช. ผู้ที่เกี่ยวข้องออกข่าวใหญ่โตว่า จะเรียกไปสอบอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ไปในฐานะพยาน ตนจึงไม่ทราบว่าการที่พยายามจะตีเป็นข่าวขึ้นมาเพื่ออะไร ก็คงเป็นการหวังผลในเรื่องของกระแส“การตรวจสอบก็ต้องทำ คงไม่ได้หมายความว่ามีเลือกตั้งแล้วตรวจสอบกันไม่ได้ ต้องตรวจสอบกันได้ และผมเชื่อว่า ผู้บริหาร กทม. พร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบ เพียงแต่ต้องทำตรงไปตรงมา ตามบทบัญญัติ กติกา ที่กฎหมายกำหนด

              ผมก็เข้าใจว่า กรณีเช่นนี้ต้องส่งไปที่ ป.ป.ช. ประเด็นจึงมีเพียงแค่ว่า ตกลง ดีเอสไอ จะทำอะไร แล้วก็ความพยายามเสนอข่าวสารในช่วงนี้ก็ดูจะเป็นเรื่องของการตั้งเรื่องของการเมืองขึ้นมา แต่ไม่เป็นไร ขอให้อย่าเลือกปฏิบัติ เพราะพอพรรคอื่นเปิดตัวผู้สมัคร ก็อย่าลืมตรวจสอบคนเหล่านั้นด้วยก็แล้วกัน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

             เมื่อถามว่าทางดีเอสไอใช้คำว่าจะแจ้งข้อกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่ทราบ ไม่แน่เขาอาจจะไปแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหาร โดยไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ เผื่อจะได้รางวัลหน่วยงานสร้างสรรค์ ซึ่งตนคงไปแนะนำอะไรนายธาริต ไม่ได้