“ปู” ไม่หวั่นเสียงประชามติไม่ถึงกึ่งหนึ่ง

               ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีที่ยังมีความขัดแย้งกันในพรรคเพื่อไทยเรื่องการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ความจริงเป็นความเห็นต่าง แต่ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเราอยากเห็นกระบวนการการมีส่วนร่วม ซึ่งวันนี้ก็ได้เห็นแล้วในหลายแนวทาง อย่างไรก็ตามวันนี้เรากำลังถกเถียงกันในเรื่องวิธีการ แต่ยังไม่ได้คุยกันเลยว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งความเห็นของหลายคนที่อยากให้แก้รายมาตรา ก็อยากให้คุยกันในรายละเอียดว่าแก้เรื่องอะไร ประชาชนได้ประโยชน์อะไร หรือการทำประชามติจะมีหัวข้ออะไร ซึ่งคณะทำงานศึกษาการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องลงไปทำความเข้าใจและติดตามความคิดเห็นของแต่ละส่วนให้ชัดเจนก่อน ซึ่งเราไม่ได้เร่งรัด แต่อยากให้มีการแสดงออกที่สร้างสรรค์สำหรับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้เป็นประโยชน์และทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ

            เมื่อถามว่าหลายฝ่ายยังระแวงว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะชี้แจงอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ นี่แหล่ะก็เป็นสิ่งที่ดิฉันได้เรียนไปว่า เราคุยกันแต่วิธีการ เลยทำให้เกิดการคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานา จึงอยากให้คณะทำงานได้คุยกันถึงเนื้อหารายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญก่อน เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ประชาชนจะได้อะไร และจะมีรูปแบบไหน อยากให้เห็นตรงนี้ก่อน” เมื่อถามว่าจะพูดให้ชัดได้หรือไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ใช่คะ การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อประชาชน เราอยากให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ดังกล่าวคณะทำงานก็ควรให้ความกระจ่างกับประชาชนว่าการแก้ไขครั้งนี้ประชาชนและส่วนรวมได้ประโยชน์อะไร”

           ส่วนมั่นใจเสียงโหวตในการทำประชามติว่าจะได้ถึง 24 ล้านเสียงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลคือทำอย่างไรให้กระบวนการมีส่วนร่วมเป็นที่ยอมรับ เราไม่ได้มองไปว่าเสียงจะได้ครบหรือไม่ครบ วันนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังเดินหน้าไม่ได้ เพราะมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญที่แนะนำให้แก้ไขเป็นรายมาตรา หรือให้ทำประชามติก่อน ดังนั้นเราก็ต้องมาดูทางออกว่าจะเดินไปแบบไหน ซึ่งมี 2 ทาง ระหว่างการทำประชามติ กับการแก้ไขรายมาตรา อย่าเพิ่งไปดูผลว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ซึ่งตนก็ได้คุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้แล้ว โดยบอกว่าอยากให้เล่าความคิดเห็นให้พวกเราฟัง จะได้ช่วยกันคิดพิจารณา เพราะเราคงไม่ได้มองแค่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องให้ประชาชนได้รับรู้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงต้องใช้เวลาช่วงนี้พูดคุยกัน อย่างไรก็ตามในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้ (25 ธ.ค.) คงยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร แต่จะเปิดให้สมาชิกได้แสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวางมากกว่า

           ขณะที่กรณีหากมีการออกมาใช้สิทธิลงประชามติไม่ถึงกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์จะเดินไปอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงมีทางออกอยู่แล้ว หากเสียงลงประชามติได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ก็ต้องกลับไปแก้ไขรายมาตรา ไม่ถือว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลแต่อย่างใด เพราะไม่ใช่นโยบายรัฐบาลตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เป็นข้อแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องมาคุยกัน รัฐบาลมีหน้าที่เพียงให้การสนับสนุนเท่านั้น