'โอ๊ค' เปิดทฤษฎีอาการกำเริบ 'สลิ่ม-แมลงสาบ' วิ่งพล่าน ยกกรณี 'หมอผีที่อยากเป็นหัวหน้าเผ่า' อุปมา-อุปไมย เปรียบเทียบ 'ทักษิณ' โผล่ช่อง 11
โอ๊ค พานทองเเท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ระบุ "ปรากฏการณ์มาเก๊าเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ 'ปีเตอร์' เพื่อนร่วมห้องของผม ประชดชีวิตอย่างที่เห็นในรูปครับ"
ทฤษฎีของผมเกี่ยวกับอาการกำเริบ ของพวกสลิ่มกับแมลงสาบที่วิ่งกันพล่านทุกครั้ง ที่โดนไบก้อนทักษิณฯฉีดใส่ มีอุปมา-อุปไมย ให้เห็นกันในโพสต์นี้
ขนาดครั้งก่อนๆ เพียงแค่เงาของทักษิณฯ เฉียดมาใกล้ๆ ประเทศ ก็ชักดิ้นชักงอกันเป็นแถวๆ มาครั้งนี้คุณพ่อผมเล่นโผล่หน้ามาเยี่ยม ถึงในบ้านของทุกท่านทาง TV ช่อง 11 'สลิ่ม-แมลงสาบ' พวกนี้จึงทำท่าจะลงแดงตายกันดื้อๆ ซะแล้ว ผมนิยามพวกที่มีลักษณะที่ว่านี้ ว่าเป็นพวกสาวกของ 'หมอผีที่อยากเป็นหัวหน้าเผ่า' ครับ
อุปมา
เหมือนกับคนป่าเผ่าหนึ่ง ซึ่งปกติจะต้องเลือกคนที่แข็งแรงที่สุดขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่า แต่อยู่มาวันหนึ่งหมอผีประจำเผ่าเกิดอยากจะเป็น หรืออยากจะให้สาวกของตัวเอง ซึ่งอ่อนแอกว่าคนป่าคนอื่นๆ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าเสียเอง จึงได้ออกอุบายสร้างความหวาดกลัวให้กับสมาชิกทุกคนว่า ในหมู่บ้านนี้มีภูติผีปีศาจ จำเป็นที่จะต้องตั้งสาวกของหมอผีขึ้นเป็นหัวหน้า หากมัวแต่ไปคัดเลือกคนที่แข็งแรงขึ้นเป็นหัวหน้า จะต้องโชคร้ายตายกันหมดทั้งหมู่บ้าน และก็แน่นอนครับ คนที่แข็งแรงที่สุดที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะเป็นผู้นำให้เขาได้นั้น ย่อมเป็นศัตรูตัวสำคัญ และตกเป็นเป้าของการถูกกล่าวหา โดยถูกป้ายสีให้เป็นปีศาจร้ายตัวพ่อขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะทำอะไร นู่น-นี่ -นั่น ก็ล้วนแต่ 'ผิดผี' หมด ทุกเรื่องที่กระทำจะถูกตั้งคณะกรรมการหมอผีขึ้นมาเอาผิด จนกระทั่งคนแข็งแรงต้องลี้ภัยออกนอกหมู่บ้านในที่สุด
คนในหมู่บ้านเมื่อได้ยินหมอผีเป่าหูเรื่องปีศาจ ความเชื่อก็แบ่งเป็น 3 กลุ่มทันทีครับ
คนป่ากลุ่มที่ 1 เห็นว่า ภูติผีปีศาจนั้นเป็นเรื่องไร้สาระหลอกเด็ก ดังนั้นผู้นำควรจะต้องเป็นคนที่แข็งแรง สามารถสู้รบปรบมือกับคนป่าเผ่าอื่นๆ ได้ ก็อยากที่จะให้คนที่แข็งแรงที่สุด ซึ่งโดนหาเรื่องกลั่นแกล้งจนต้องลี้ภัย ได้กลับบ้านมาทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมต่อไป
คนป่ากลุ่มที่ 2 เป็นพวกที่กลางๆ อยากให้คนแข็งแรงได้ทำหน้าที่ แต่ก็เหมือนคนไทยทั่วๆ ไป คือแม้ไม่เชื่อว่าผีมีจริงแต่ก็แอบกลัวผีเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะคืนไหนที่ได้ฟังโกหกเรื่องผีมาใหม่ๆ คืนนั้นก็จะกลัวผีเป็นพิเศษ
คนป่ากลุ่มที่ 3 จะเป็นกลุ่มคนที่เชื่อสนิทใจว่า คนแข็งแรงนั้นคือปีศาจร้าย จำเป็นต้องสกัดปัดเป่าให้หมดสิ้น เชื่อจนจิตหลอนว่ากลุ่มตัวเองเท่านั้นที่ฉลาดล้ำ ตาสว่าง ใครคิดต่างจากตนเป็นคนโง่ บางครั้งจิตหลอนมากๆ เห็นคนอื่นนึกว่าเป็นผี คิดจะเอากาแฟ..เอ๊ย! น้ำมนต์ไปสาดใส่ก็มี
คนที่โกหกหลอกลวงผู้อื่นย่อมมีจุดอ่อนอยู่ที่ กลัวว่าความจริงถูกเปิดเผยครับ ดังนั้นถ้ามีใครพิสูจน์ว่าผีไม่มีจริงได้เมื่อไหร่ลิเกจบทันที หมอผีและคณะย่อมจะกลายเป็น บุคคลที่ไร้สมรรถภาพในการปกครองคนป่า ดังนั้นเมื่อมีคนที่พยายามจะบอกว่าผีไม่มีในโลก หมอผีและคณะก็จะดิ้นพราด เหมือนแมลงสาบเจอไบก้อนเช่นนี้แหละ
อุปไมย
ก็ย่อมเหมือนกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ได้จุดเทียนชัยและกล่าวนำถวายพระพร ร่วมกับคนไทยนับพันคน ที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า แสดงถึงความจงรักภักดี เป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีนั้น ไม่เป็นความจริง หมู่บ้านที่ชื่อเมืองไทยนี้ไม่มีสิ่งที่เลวร้าย พสกนิกรชาวไทยทุกคนล้วนแต่มีความจงรักภักดี บรรดาหมอผีและสาวกที่หากินกับการแอบอ้างฯ ก็จะหมดความหมายไร้ค่าในทันที เพราะถ้าไม่มีประเด็นเรื่องนี้แล้ว จะไปสู้รบตบมืออะไรก็แพ้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ทุกด้าน
ยิ่งพวกแอบอ้างฯไม่อยากให้คุณพ่อผมแสดงความจงรักภักดีเท่าไหร่ ผมยิ่งอยากเห็นคุณพ่อออกมาแสดงความจงรักภักดีมากเท่านั้นครับ ยิ่งกล่าวหาว่าผิดว่าไม่สามารถกระทำได้ ก็จะยิ่งเป็นการพิสูจน์ว่าถึงมันจะยากเย็นขนาดไหน การถวายความจงรักภักดี ก็เป็นสิ่งที่พสกนิกรไทยทุกคนจะต้องทำ
ผมเชื่อว่าคนไทยที่รักสถาบันอย่างจริงใจ เมื่อได้เห็นการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 วันก่อน ย่อมเกิดความอิ่มเอิบสบายใจว่า สิ่งที่มีคนพยายามกล่าวหากันมาตลอดนั้นไม่เป็นความจริง ความรักต่อสถาบันฯ โดยเฉพาะการแสดงออกในพิธีมหามงคลนั้น ควรจะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงออก ผมว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะมาจ้องจับผิดคนโน้นคนนี้ จะมีไม่ชอบก็แต่พวกที่อาศัยสถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อเอาชนะทางการเมืองและทำร้ายผู้อื่นเท่านั้น ที่มีอาการอกจะแตกตายอย่างที่เห็นๆ กัน "ใครจัดมวยหรือรายการอะไรเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติฯนอกประเทศอีกละก็ ช่วยส่งข่าวกันด้วยนะครับ ยิ่งถ้ามีการถ่ายทอดสดกลับมาเมืองไทย ให้พี่น้องประชาชนไทยชมกันอีกละก็ ขอให้บอก....รับทุกช่องครับ"