วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมแจ้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในการเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า ต้องไปดูในส่วนของกระบวนการยุติธรรมว่าเป็นอย่างไร ผิดหรือยัง คำสั่งของ ศอฉ. เป็นคำสั่งกว้าง ๆ ทั้งหมด เพราะเมื่อมีแผนงานก็ต้องมีคำสั่ง แต่ในคำสั่งไม่ได้เขียนให้ไปฆ่าใคร ทุกท่านก็ทราบดีว่ามีการใช้อาวุธในการชุมนุม คิดว่าควรไปต่อสู้กันในกระบวนการยุติธรรมดีกว่า
เมื่อถามว่า รู้สึกน้อยใจหรือไม่ที่มีบางฝ่ายวิจารณ์ว่าลอยตัวเหนือปัญหาการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า
ไม่น้อยใจ ถ้าน้อยใจลาออกไปนานแล้ว ทั้งนี้คิดว่าต้องให้เวลาคนไทยในการสร้างความเข้าใจ ประเทศเราแก้ปัญหามาโดยตลอด ต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กันอย่างไรต่อไปในอนาคต ทำอย่างไรกฎหมายจึงจะได้รับการนับถือ ต่อให้มีกี่ พ.ร.บ. หรือกี่ พ.ร.ก. หากคนไม่เชื่อมั่นกฎหมายก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าถามว่าน้อยใจหรือไม่ ตนตอบเลยว่าไม่น้อยใจ แต่รู้สึกเหนื่อยคือต้องบังคับตัวเองไม่ให้โมโหสื่อมวลชน
เมื่อถามว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนไปในทางการเมือง ผบ.ทบ. กล่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เพราะตนไม่มีจุดยืนทางการเมือง เนื่องจากไม่ใช่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ทั้งนี้กองทัพมีจุดยืนคือเป็นกองทัพของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เป็นสิ่งที่อยู่ในใจทหารทุกนาย ทหารต้องมีความฉลาด รอบรู้ ทันสมัย มีวิสัยทัศน์ เมื่อถามต่อว่าหลายฝ่ายพยายามดึงทหารเข้าไปเป็นพวก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แค่เพียงความพยายาม แต่ตนเป็นของทุกคน ไม่ว่ารัฐบาล ฝ่ายค้าน ตนถามว่าทุกคนเป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าเป็นคนไทยก็เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องดูแลทุกคน เพราะตนเป็นทหารของประชาชน เมื่อถามอีกว่า เชื่อเรื่องดวงเมืองหรือไม่ที่โหรทำนายว่า ปีหน้าจะมีสถานการณ์ความขัดแย่งกันรุนแรงมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ขอให้กลับไปห้อยพระก็แล้วกัน”