ธาริตยันแจ้งข้อหาอภิสิทธิ์-สุเทพยึดคำสั่งศาล

               นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กรณีการตายของผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองปี 2553 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หลังดีเอสไอแจ้งข้อหากับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา ว่าซึ่งทางนายสุเทพ ได้โทรศัพท์มาหาเมื่อช่วงเย็นวานนี้ และขอให้ส่งหนังสือเชิญให้มารับทราบข้อกล่าวหาที่พรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้เวลา 08.30 น. โดย นายสุเทพ และ นายอภิสิทธิ์ จะรออยู่ที่พรรค เพื่อรับหนังสือด้วยตนเอง

            อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การทำคดีนี้เป็นการทำงานร่วมกันทั้ง 3 ฝ่ายคือ ตำรวจนครบาล พนักงานอัยการ และดีเอสไอ พยานหลักฐานมี 2 ส่วน คือ การไต่สวนของศาลในคดี นายพัน คำกอง แท็กซี่เสื้อแดงที่เสียชีวิตในการชุมนุม และอีกส่วน จากการต่อยอดตามแนวทางที่ศาลสั่ง ว่า การตายเกิดจากกระสุนปืนความเร็วสูงของทหาร ซึ่งมาจากการสั่งการของ ศอฉ. ซึ่งจากพยานหลักฐาน เช่น คำสั่งให้ปฏิบัติการ ที่มี นายสุเทพ เป็นผู้ลงนาม และเป็นไปตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรีขณะนั้น คือ นายอภิสิทธิ์ โดย ดีเอสไอ เห็นว่าการใช้อาวุธ หรือการอนุมัติให้มีพลซุ่มยิง ในวันแรกก็มีการตาย แต่ก็ยังไม่หยุด ยังปฏิบัติการต่อเนื่องกันอีกหลายวัน การออกคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ได้แก้ไข รวมทั้ง พยานใน ศอฉ. ที่มาให้การ ทำให้เห็นว่า ทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันสั่งการอันมีลักษณะก่อให้ผู้อื่นไปกระทำความผิดฆ่าคนตายโดยเจตนาให้เล็งเห็นผล