จี้กกต.วินิจฉัยปมก่อแก้ว-มาร์คพ้นส.ส.

              ที่สำนักงานคณะกรรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และกกต.ขอให้ส่งเรื่องสมาชิกภาพส.ส. ของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ว่ามีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4) ประกอบมาตรา 101 (3)หรือไม่ จากกรณีถูกศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวทำให้ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาล ที่อาจเข้าลักษณะตามมาตรา 100 (3) เพื่อส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 วรรค3โดยรวบรวมข้อเท็จจริงและ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป ซึ่งกรณีนายก่อแก้วหากพบว่าผิดจริงก็จะพ้นจากส.ส.และอาจจะพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย ก็จะเหมือนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะต้องพ้นจากส.ส.และอาจจะพ้นจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย เพราะโดนคำสั่งกระทรวงกลาโหมให้ปลดออกจากราชการ

            นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของนายก่อแก้ว คล้ายกับกรณีของนายอภิสิทธิ์ เพียงแต่อาจจะโดนคำสั่งจากหน่วยงานที่ต่างกันคือนายอภิสิทธิ์ถูกกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งให้ออกจากราชการ ส่วนนายก่อแก้วโดนคำสั่งศาลอาญาเพิกถอนประกัน ซึ่งกรณีนายอภิสิทธิ์มีความซับซ้อนน้อยกว่าน่าจะทำได้เร็วกว่านายก่อแก้ว เพราะทั้ง 2 เรื่องมีแนวทางเดียวกัน เมื่อถามว่าการออกมายื่นเรื่องแบบนี้เกรงว่าจะเกิด 2 มาตรฐานหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่าไม่ ตนมั่นใจในการทำงานของกกต.

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายเรืองไกรได้นำเอกสารชี้แจงเปรียบเทียบกรณีนายอภิสิทธิ์และนายก่อแก้ว เป็นข้อๆมาแจกจ่ายผู้สื่อข่าวด้วย อาทิเช่น ข้อ 1 เหตุที่ทำให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ นายอภิสิทธิ์ โดนคำสั่งกระทรวงกลาโหมให้ปลดออกจากราชการ เป็นเหตุให้พ้นสมาชิกภาพ นายก่อแก้วโดนคำสั่งศาลอาญาเพิกถอนประกัน ให้ต้องคุมขังในหมายศาล ผลที่ตามมาหากถูกวินิฉัยให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ นายอภิสิทธิ์ พ้นจากความเป็นส.ส. พ้นจากผู้นำฝ่ายค้าน และอาจจะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายก่อแก้ว พ้นจากความเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย