เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่โรงแรม ปริ๊นตัน ปาร์ค สวีท ดินแดง ชมรมแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง
จัดเสวนาอภิปรายเรื่อง "24 พ.ย.นำไปสู่วันสิ้นรัฐบาลหรือไม่" มีนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ นายกิจจา ทวีกุล หรือหมอนิด หมอดูชื่อดังที่ทำนายด้วยญาณ และน.ส.กานธนิกา ชุนหะวัต ผู้เขียนหนังสืออภิสิทธิ์คนเหนือดวง เป็นวิทยากร โดยมีนายอนุสรณ์ เกษมวรรณ เป็นผู้ดำเนินรายการ
น.ส.กานธนิกา กล่าวว่า หลัง 24 พ.ย. จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีความรุนแรง และการชุมนุมก็จะเป็นไปอย่างสงบ
แต่อยู่ในช่วงที่ดาวมฤตยูเคลื่อนมาทับดวงเมือง ทำให้อะไรที่คาดหวังไว้จะไม่เป็นเช่นนั้น จากนั้นดาวเสาร์จะเคลื่อนทำมุมทแยงกับดาวราหูส่งผลให้ประเทศไทยยังมีความวุ่นวายต่อไปอีก 5 ปี ส่วนการถอดยศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน ก็เชื่อว่านายอภิสิทธิ์มีสิทธิ์ชนะคดี และประเด็นดังกล่าวก็ไม่เป็นเหตุผลในการขับเคลื่อนการชุมนุม แต่ยังมีสาเหตุอื่น เช่น นโยบายหลายๆนโยบายที่รัฐบาลทำไม่ได้
“ทั้งนี้ การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจะไม่ใช่เพียงวันที่ 24 พ.ย. เพียงวันเดียว แต่จะมีการชุมนุมไปเรื่อย ๆ และจะมีเซอร์ไพรส์บางอย่าง แต่ยืนยันว่า 24 พ.ย. จะไม่มีความรุนแรง ไม่มีนองเลือด เพราะพระเกตุคุ้มครองดวงเมืองอยู่”น.ส.กานธนิกากล่าว
ด้านนายภิญโญ กล่าวว่า วันที่ 28 พ.ย. ซึ่งเป็นวันลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน
เป็นช่วงเวลาที่เกิดปรากฎการณ์อุปราคา หรือ จันทรุปราคาเงามัว ที่ราศีพฤษภ ซึ่งส่งผลต่อเรื่องจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก ของผู้นำ และอาจเกิดการตัดสินใจอะไรบางอย่าง ส่วนการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.นั้น อาจเกิดผลบางอย่างที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคต
“สำหรับปี 2555 - 2557 นั้นต้องดูดาวเสาร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในราศีตุลย์ มีทั้งดีและไม่ดี พระเสาร์หมายถึงมหาอุตต์ เปรียบเสมือนผู้บริหารราชการแผ่นดิน เป็นพินธุบาทว์ ส่งผลร้ายต่อดวงเมือง เพราะเสาร์เมืองมีรูรั่วหลายรู เกิดจากเจ้าเรือนที่ 10 แต่อีกสักพักราหูจะอยู่ในราศีพิจิก เป็นเพชรฆาต ดังนั้น ความรุนแรงในอนาคตมีแน่นอน เพราะราหูคือเจ้าเรือนที่ 11 เป็นรายได้ของประเทศ และรัฐสภา มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นแน่นอน” นายภิญโญกล่าว
ขณะที่ นายกิจจา กล่าวว่า วันที่ 24 พ.ย. การชุมนุมไม่ใช่แค่ม้วนเดียว หรือ 2 วันจบ และบ้านเมืองจะเสียหายไม่ช้าก็เร็ว
จะมีการชุมนุมรอบ 2-3 ตามมาและจะเข้มข้นมากขึ้น จะเห็นความมันหลังวันที่ 10 ธ.ค. เป็นต้นไปลากยาวข้ามปี จะมีการนองเลือด รัฐบาลหนีไม่พ้นแน่นอน และหากรัฐบาลฉลาดจะมีการชิงยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แต่ก็จะไม่มีเลือกตั้งไปอีก 5 ปี หัวเมืองจะเกิดความปั่นป่วน ทั้งนี้ หากจะยุติการนองเลือดได้ ต้องอาศัยศาลมาจัดการรัฐบาลในเรื่องทุจริตคอรัปชั่น แต่จะทำหรือไม่ ถ้าทำก็ถือว่าช่วยชาติ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะออกหัวหรือก้อย บ้านเมืองก็จะพบกับความหายนะ หากรัฐบาลยังอยู่ประเทศก็ล้มละลาย
ทั้งนี้ หมอนิด ยืนยันปี 56 จะเกิดรุนแรง 100% และเตือนด้วยว่า เดือน ม.ค. - เม.ย. 56 เป็นช่วงอันตราย จะมีการปฏิวัติประชาชนโดยแท้จริง เพราะทุกวันนี้ทหารทีทั้งขายสีและหลอกแดกรวมอยู่ด้วย แต่ก็เชื่อว่าทหารยังมีความจงรักภักดี และหากมีการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 จะชุมนุมยืดเยื้อเป็นเดือนให้ประชาชนเตรียมข้าวปลาอาหารเก็บไว้
ส่วนดวงของนายอภิสิทธิ์ต่อจากนี้ถึงปี 2561 ยังไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล
และรัฐบาลต่อไปจะไม่ได้มาจากพรรคการเมืองเพราะประชาชนเริ่มเบื่อ การชุมนุมระลอกใหม่จะเป็นการรวมกันของแนวร่วมทั้งองค์การพิทักษ์สยามและพันธมิตรฯเพื่อโค่นล้มรัฐบาล และทหารจะออกมา และบ้านเมืองก็จะไม่มีวันสงบ
นายกิจจากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ปี 2556 ให้ระวังภัยทางทะเล ถ้าไม่ใช่สึนามิ ก็เป็นพายุเกย์ ปี 2557 กรุงเทพ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ แรงกว่าปี 54 ประมาณ 5 เท่า
พอถึงหน้าหนาวก็จะหนาวสุด ร้อนก็ร้อนสุด และเมื่อถึงปี 58 คนมีสีจะฟัดกันเอง ซึ่งบ้านเมืองจากนี้ไปจนถึงปี 61 จะยุ่งมาก ด้านเศรษฐกิจปี 56 จะล้มระเนระนาด โจรผู้ร้ายชุกชุม ดังนั้นใครทำธุรกิจขอให้คิดให้ดี อย่าเพิ่งลงทุน ส่วนคนมีงานอย่าเพิ่งออกจากงาน รัฐบาลอาจโดนตุลาการภิวัฒน์ และถ้าตำรวจทำร้ายประชาชนจะใส่เครื่องแบบสีกากีไม่ได้อีกนาน และทหารก็จะขึ้นมาปกครองแล้ว อาจมีทหารเป็นนายกฯ บ้านเมืองจะวุ่นวายไปถึงปี 61 เพราะคนที่ขึ้นมาไม่ใช่คนดวงดี ดังนั้น จึงอยากขอให้ขอผู้มีอำนาจเลือกคนดีจริง ๆ อย่าเล่นพรรคเล่นพวก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
