พันธมิตรฯประกาศไม่ร่วมชุมนุมกับม็อบเสธ.อ้าย

                 ที่บ้านพระอาทิตย์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงจุดยืนภายหลังจากการประชุมแกนนำพันธมิตรฯ ต่อการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย.นี้ โดยมีมติว่า 1.ให้กำลังใจในการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม 2. แจ้งให้ทราบว่าแกนนำพันธมิตรฯยังไม่พร้อมเข้าร่วมชุมนุม 3. การตัดสินใจของประชาชนในการเข้าร่วมชุมนุม ถือเป็นเป็นสิทธิเสรีภาพที่ได้บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ และถือเป็นวิจารณญาณของปัจเจกบุคคล

              พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่าพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ ( เสธ.อ้าย )ในฐานะแกนนำองค์การพิทักษ์สยามได้แสดงเจตจำนงในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ แกนนำพันธมิตรฯเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าควรให้กำลังใจอย่างเป็นรูปธรรม เห็นว่าควรงดกิจกรรมใดที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันดังกล่าว จึงมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้งดจัดงานเสวนาการปฏิรูปการเมืองในวันที่ 24 พ.ย.ที่ จ.กาญจนบุรี และ วันที่ 25 พ.ย.ที่ จ.เพชรบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้ใช้วิจารณญาณและการตัดสินใจส่วนตนในการเข้าร่วมชุมนุมหรือไม่ก็ได้ในวันดังกล่าว โดยปราศจากอุปสรรคอันอาจเกิดจากการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯ

              “แกนนำพันธมิตรฯยังจะคงเลือกวิธีการเดินสายสัญจรให้ข้อมูลประชาชนทั่วประเทศในประเด็นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และรอเวลาตลอดจนสถานการณ์ที่สุกงอม เพื่อให้ประชาชนตื่นรู้และเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่จึงออกเคลื่อนไหว”พล.ต.จำลอง กล่าวและว่าสำหรับประเด็นที่ พล.อ.บุญเลิศ เสนอแช่แข็งประเทศไว้ 5 ปีปลอดนักการเมืองนั้น เห็นว่าเป็นความตั้งใจดีของเสธอ้าย ยืนยันว่าถ้าประเทศนี้ไม่มีนักการเมืองเลวประเทศจะเจริญไปมากมาย แต่การจะแช่แข็งประเทศได้ ต้องทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและร่วมปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ก่อน ซึ่งขอชื่นชมเสธ.อ้าย ที่เกิดมาเป็นทหารเหมือนกับตนมีความกล้าหาญยึดมั่นหน้าที่พิทักษ์ชาติราชบังลังค์ ไปจนตัวตาย ซึ่งเรียกว่าทหารแก่ไม่มีวันตาย ทั้งนี้ไม่ขอวิพากวิจารณ์ว่าการชุมนุมของเสธ.อ้ายจะขับไล่รัฐบาลได้หรือไม่ แต่ขอให้ประชาชนรอดูเพราะสถานการณ์สร้างวีรีบุรุษได้เสมอ

                ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เชื่อว่าจะมีประชาชนออกมาร่วมจำนวนมากที่ทนไม่ได้กับรัฐบบาลชุดนี้ซึ่งแนวร่วมพันธมิตรฯที่มีอยู่ทั่วประเทศ เห็นด้วยกับประเด็นที่ พล.อ.บุญเลิศ ออกมาเรียกร้องล้มรัฐบาลก็ควรออกมา เพราะเจตนาของคนไทยทุกคนร่วมทั้งพล.อ.บุญเลิศ มีทิศทางตรงกันในการต่อต้านและหยุดนักการเมืองที่ทำลายประเทศด้วยการคอรรัปชั่น คดโกงทุกนโยบาย ทำให้คนไทยต้องแบกภาระค่าน้ำมันแพงต่อไป แต่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศจุดยืนของการออกมาเคลื่อนไหวไว้แล้วคือหากรัฐบาลมีการออกพรบ.ปรองดอง มีการนิรโทษกรรมให้อดีตนายกฯและพวกเผาบ้านเผาเมือง และมีการดูหมิ่นสถาบัน

               “ประเมินว่าถ้าม็อบเสธอ้าย ทำสำเร็จอาจจะเรียกทหารออกมาได้จะเป็นเพียงการเปลี่ยนขั้วการเมืองเท่านั้นโดยตั้งพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลในค่ายทหารเหมือนเดิม ซึ่งยังไม่มีอะไรใหม่ แต่หากการชุมนุมยืดเยื้อถึงขั้นปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ได้ เราอาจจะประเมินท่าทีกันอีกครั้ง”นายสนธิ กล่าวและว่า ส่วนประเด็นที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่าม็อบอาจรุนแรงถึงขึ้นเกิดการจับตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ขอบอกว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้จับตัวคนไทยทั้งประเทศไว้เป็นตัวประกันแล้ว ในโครงการรับจำนำข้าว กับการทุจริตจำนวนมากที่คนไทยแบกหนี้ที่รัฐบาลก่อไว้ต่อไป และถ้าไม่เป็นรัฐบาลก็จะมาเผาบ้านเผาเมืองอีก " นายสนธิ กล่าว