ปชป.จี้รัฐเลิกแจกหนังสือ“รู้ลึก รู้จริง จำนำข้าว”ขี้โม้

ปชป.จี้รัฐเลิกแจกหนังสือ“รู้ลึก รู้จริง จำนำข้าว”ขี้โม้

วันนี้(11 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้แจกเอกสารของกระทรวงพาณิชย์ ชื่อ“รู้ลึก รู้จริง จำนำข้าว” มีเนื้อหาเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวนั้น อยากให้รัฐบาลยุติการแจกจ่ายหนังสือดังกล่าว และไม่ควรเอาหนังสือเล่มนี้ไปหลอกนายกรัฐมนตรี มิฉะนั้นนายกฯจะชี้แจงผิดๆ ถูกๆ เพราะหนังสือดังกล่าวปกปิด บิดเบือนข้อมูล หลอกลวงคนไทยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว

พรรคประชาธิปัตย์ได้ตรวจสอบหนังสือเล่มนี้แล้วพบว่าปกปิด ทั้งการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ที่ระบุว่าเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้นั้น แต่ขณะนี้ประเทศเวียดนาม และประเทศต่างๆ สามารถรายงานการซื้อขายข้าวได้ จึงไม่ทราบว่ารัฐบาลกลัวคนไทยจะรู้ว่ารัฐบาลขายข้าวราคาต่ำเกินไปทั้งที่จำนำข้าวในราคาสูง ใช่หรือไม่ รวมถึงการผลิตข้าวนาปีนาปรัง ปี 2555 ก็ไม่สามารถผลิตข้าวได้ถึง 37,302 ล้านตัน ตามที่รัฐบาลอ้าง ถือเป็นการบิดเบือนเพราะสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุว่าพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 54/55 มี 81 ล้านไร่ จะได้ผลผลิตเฉลี่ย 381 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนนาปรัง 17 ล้านไร่ จะมีผลผลิตไร่ละ 662 กิโลกรัม ดังนั้นไทยจะผลิตข้าวเปลือกได้เต็มพื้นที่จะไม่เกิน 34,495 ล้านตัน แต่ตัวเลขก็ไม่ถึงขนาดนี้เพราะปีที่แล้วมีปัญหาน้ำท่วมกว่าล้านไร่ ทำให้ผลผลิตข้าวไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

นายองอาจ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ประเมินว่าชาวนาจะมีรายได้ 184,789 ล้านบาท จากการผลิตข้าวได้ 37,302 ล้านตัน แต่ก็มีปัญหาที่ไทยผลิตข้าวได้ไม่ถึงจำนวนดังกล่าว เมื่อผลิตขาวไม่ถึงก็จะทำให้รายได้ทั้งระบบได้ ไม่สูงตามที่หน้งสือดังกล่าวระบุไว้ และที่ระบุว่าชาวนามีพื้นที่ปลูกข้าว 21 ไร่ต่อครัวเรือน และใน 1 ปีชาวนาจะทำนา 2 ครั้ง ได้ผลผลิตรวม 23,058 ตันต่อครัวเรือน และคำนวนรายได้ต่อปี 12,379 บาทต่อปี หรือ 1,033 บาท ต่อเดือน รัฐบาลชี้ให่เห็นว่าชาวนายากจน จึงต้องนำโครงการจำนำข้าวมาช่วยชาวนา แต่ข้อมูลของรัฐบาลกลับไม่ตรงกับแผนพัฒนาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ปี 2550 – 2554 ดังนั้นการอ้างว่าโครงการจำนำข้าวประสบความสำเร็จ ชาวนาได้ประโยชน์ จึงไม่เป็นความจริง เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือนายทุน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ส่วนใหญ่

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก ที่วัตถุดิบในการผลิตอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ เป็นต้น ราคาถูกกว่าปีที่แล้ว แต่อาหารปรุงสำเร็จกลับมีราคาแพงกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 20 นายกรัฐมนตรี ทำให้ประชาชนขายของในราคาถูก แต่ซึ้อของราคาแพง เป็นเศรษฐศาสตร์ตำราใหม่ที่ตนไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นำมาจากไหน

ปัญหาดังกล่าวมาจากความผิดพลาดของรัฐบาล อาทินโยบายการขึ้นค่าแรงรายวัน 300 บาท การขึ้นราคาค่าไฟฟ้า การลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจี และการขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้ค่าขนส่ง ค่าการผลิต และค่าจัดเก็บปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าปลายทางมีราคาแพง แต่ราคาที่ต้นทางถูกกด ถือเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว.