พันธมิตรฯ จวก ´สมคิด´ ไร้ศักดิ์ศรี

กรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลชุดก่อน มาเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้น

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช.กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งให้นายสมคิดมาทำงานช่วยชาติคงไม่มีอะไร เพราะความสมานฉันท์ต้องใช้คนที่มีความร่วมมือกันหลายๆกลุ่มหลายๆพวกมาช่วยกันคิด

แม้ใน สนช.ยังมีคนของพรรคไทยรักไทย ก็ต้องมาช่วยกันคิด รัฐบาลคงมองว่ามีคนที่มีความสามารถอยู่ตรงไหนก็เลือกมาใช้ เพราะเราอยากให้ทุกคนเห็นแก่ชาติบ้านเมืองก็ต้องหันมามองประโยชน์ ของชาติเป็นที่ตั้ง เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลังเราต้องเอาประเทศชาติไว้ก่อน

เมื่อถามว่า เป็นการต่อท่ออำนาจทางการเมืองของรัฐบาลและ คมช. หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน และไม่มีความลึกซึ้ง ทุกอย่างตรงไปตรงมา จุดประสงค์หลักเพื่อมาช่วยงานเศรษฐกิจของรัฐบาลเท่านั้น

พล.อ.สนธิกล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลตนไม่รู้ แต่สำหรับทาง คมช. เรากำลังหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อส่งข้อมูลไปให้ฝ่ายบริหารพิจารณา เพราะปัญหาใหญ่ๆ ของรัฐบาลคือเรื่องของเศรษฐกิจเราก็ต้องหาคนมาช่วย

รวมถึงเรื่องการศึกษา ซึ่งเท่าที่มองในอนาคตเราต้องเร่งเรื่องการศึกษา เมื่อคนมีการศึกษามากๆใครมาหลอกมาต้มตุ๋นก็ยาก เมื่อคนเรามีการศึกษาสูงก็จะสามารถพัฒนาครอบครัวและเศรษฐกิจมุ่งไปข้างหน้าได้ เมื่อถามว่า เป็นเพราะรัฐบาลล้มเหลวงานด้านเศรษฐกิจหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า มองต่างกัน


ไม่กังวลแม้เหลือเวลาแค่ 7 เดือน

เมื่อถามว่า อยากจะให้รัฐบาลทำอะไรอีกหรือไม่ในช่วงระยะเวลาที่เหลือ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ช่วงเวลาที่เหลืออีก 7 เดือน จะเป็นวิถีทางที่เดินไปข้างหน้า ไม่ได้กังวลหรือเป็นห่วงอะไร

เมื่อถามว่า ทาง คตส. ได้รายงานถึงหน่วยงานที่ยังใส่เกียร์ว่างมาให้ทราบหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ทาง คมช. ไม่ทราบเพราะ คตส. รายงานต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยคุยกับ คตส. ถึงปัญหาการสนับสนุนข้อมูล ซึ่งเราก็ขอให้ทางรัฐบาลเข้ามาช่วยรวมถึงข้อมูลต่างๆให้ทาง คตส.ไปคุยกันเองทางคมช.ไม่มีอะไร

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวว่า อยากเฝ้าฟังเสียงของคนต่างๆว่า แต่ละกลุ่มคิดอย่างไร ส่วนการตั้งนายสมคิด จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลหรือ คมช.หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังมองไม่เห็นสิ่งที่จะเป็นปัญหา

เมื่อถามว่า การดึงนายสมคิดมาช่วยงานรัฐบาลเป็นการต่อท่อทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า คิดเอง เออเอง เราไม่ได้คิดอะไร คมช. คิดเรื่องดูแลบ้านเมือง เรื่องความมั่นคงก็หนักอยู่แล้ว ทั้งนี้ เรื่องของบ้านเมืองต้องค่อยๆสะสางกันไป คิดว่าในระยะเวลาไม่นานจะมีข่าวดี โดยเฉพาะเรื่องที่ คตส. และ ป.ป.ช.กำลังติดตามอยู่


โต้แทน "สมคิด"ไม่คิดเปลี่ยนจุดยืน

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ คณะทำงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์นายสมคิด ว่า เปลี่ยนจุดยืนมาช่วยงานเศรษฐกิจ ให้รัฐบาล เพื่อหวังปูทางสู่การเป็นนายกฯ ว่า นายสมคิดไม่เคยเปลี่ยนจุดยืน ท่านมีแนวคิดในเรื่องเศรษฐกิจแบบสมดุลมาตลอด ช่วงที่พรรคไทยรักไทยเข้ามาเมื่อปี 2544 ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากวิกฤติเมื่อปี 2540

รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ออกนโยบาย ที่จะวางรากฐานสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้มแข็ง พึ่งตนเอง ได้ ซึ่งไม่ได้ผิดไปจากแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และระบบ เศรษฐกิจที่แก้ปัญหาให้ประเทศเดินหน้า ภายใต้ระบบโลกาภิวัตน์ต้องเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ แต่แนวทางเศรษฐกิจ พอเพียงนั้น เป็นปรัชญาการดำเนินชีวิตของทุกคน

ซึ่งนายสมคิด ก็ใช้ทั้งระบบเศรษฐกิจและแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเดินคู่กันมาตลอด เพื่อวางตำแหน่งประเทศให้ต่อสู้ได้บนกระแสโลกาภิวัตน์

นายสุรนันทน์กล่าวว่า ส่วนที่ระบุว่านายสมคิดเป็น สัญลักษณ์ของระบอบทักษิโณมิกนั้น ความจริงทักษิโณมิก ไม่ใช่ระบอบ แต่เป็นเพียงสัญลักษณ์ ผลงานบางเรื่องก็ เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีบางเรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาในการพัฒนา ประเทศ

เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้นายสมคิดลาออกไปก่อนที่จะเสียหายมากไปกว่านี้ ซึ่งสมาชิก สนช.จะยื่น อภิปรายนายกฯเพื่อให้ทบทวนการแต่งตั้ง นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ขอให้ยุติการทาสี แบ่งขั้ว แบ่งค่าย แบ่งสีกัน เลิกคิดกันในเรื่องการเมืองได้แล้ว เพราะประเทศชาติบอบช้ำ มากพอแล้ว ทุกคนควรสมานฉันท์ ร่วมมือกันแก้ปัญหา ส่วนใครจะพอใจ หรือไม่พอใจ ทุกคนมีสิทธิคิดกันได้ แต่ ถึงเวลานี้ขอให้มาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติดีกว่า


ปัดไม่มีเงื่อนไขต่อท่ออำนาจ

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายสมคิดต้องการ เข้ามาต่อท่ออำนาจให้ คมช. และรัฐบาล นายสุรนันทน์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี นายสมคิดเสียสละทำงานเพื่อประเทศ ชาติในภาวะที่ไม่ปกติ เพื่อช่วยทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายสมานฉันท์กันอย่างแท้จริง ไม่ใช่สมานฉันท์แต่ปาก ขณะนี้นายสมคิดสมานฉันท์จริงและปฏิบัติให้เห็น ไม่เคยคิดถึงผลประโยชน์ทางการเมือง ใดๆ และไม่มีขั้ว ไม่มีค่าย ไม่มีสีอะไรทั้งนั้น เพราะการเมือง หลังมีรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีคิดให้รอบคอบ เพราะการ ตั้งนายสมคิดเป็นการยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ กลับมาได้แน่หลังการเลือกตั้ง

เนื่องจากกลุ่มมัชฌิมา จะให้นายสมคิดเป็นหัวหน้าพรรค เท่ากับปล่อยให้พรรคไทยรักไทยแยกกันตี หลังเลือกตั้งก็กลับมารวมตัวกันเป็น รัฐบาล การทำอย่างนี้ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน รัฐบาลที่มา จากการยึดอำนาจทำอย่างนี้ไม่ได้ ต้องวางตัวเป็นกลาง อย่าเอาพรรคหนึ่งพรรคใดเข้ามา ตนห่วงว่ารัฐบาลจะไป ไม่ตลอดรอดฝั่ง เพราะ คมช. กับรัฐบาล จะยิ่งขัดแย้งสูง ท่านนายกฯเป็นคนดี จะเอาชื่อเสียงมาทิ้งตรงนี้ก็น่าเสียดาย ดังนั้น ทำอะไรต้องพิจารณาให้รอบคอบ


พันธมิตรจวก "สมคิด" ไม่มีศักดิ์ศรี

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะขัดกับแนวทางของรัฐบาลและ คมช. ที่สำคัญนายสมคิดเป็นมือเศรษฐกิจของรัฐบาลทักษิณที่นำเศรษฐกิจทุนนิยมครอบโลกมาใช้

ซึ่งตรงข้ามกับเศรษฐกิจแบบพอเพียง เป็นความขัดแย้งที่ประชาชนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังคิดอะไร หากมองในแง่ตัวของนายสมคิดเองถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้ศักดิ์ศรีทำให้ตัวเองได้รับประโยชน์ ไม่มีจุดยืน พันธมิตรจะประชุมกันในวันที่ 20 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร

ไม่อยากให้ตั้งนายสมคิด เพราะเป็นการตอกย้ำเรื่องธรรมาภิบาลของการใช้อำนาจรัฐบาล การแต่งตั้งนายสมคิดโดยปราศจากเหตุผลสะท้อนว่าจริงๆแล้วการใช้อำนาจของรัฐบาลชุดนี้มันไม่เป็นธรรมาภิบาลอย่างที่ประกาศเอาไว้

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ