“ชวน”ชี้แม้วตัวก่อเหตุไฟใต้โชนอีกครั้ง

นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคปชป ชี้นโยบายทักษิณตัวก่อเหตุให้ไฟใต้ลุกโชนอีกครั้ง

“ชวน”ชี้แม้วตัวก่อเหตุไฟใต้โชนอีกครั้ง


                  ที่เอ็มเอสซี ฮอลล์ โรงแรมรามาดาพลาซ่าแม่น้ำริเวอร์ไซด์ มีการเปิดงานโรงเรียนการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ เขตสาทร บางคอแหลม ยานนาวา กทม. นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคปชป. บรรยายในหัวข้อ“หน้าที่ของประชาชนเจ้าของประเทศที่มีแท้จริงในสถานการณ์ปัจจุบัน” ตอนหนึ่งว่า รูปแบบการปกครองทุกอย่างต้องพัฒนาไปข้างหน้า แต่ต้องยอมรับว่ารูปแบบการปกครองของประเทศไทยให้โอกาสมาก บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่เราต้องทำ คนไทยมีศักยภาพแต่เรามีจุดอ่อนที่นักการเมืองโกง ซึ่งมากจากธุรกิจการเมืองและอุปสรรคของประชาธิปไตยคือการยึดอำนาจ ระบอบประชาธิปไตยอำนาจอธิปไตยจะใช้ผ่านองค์กรสถาบัน ทั้งนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ โดยมีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา จึงเกิดองค์กรอิสระขึ้นมา เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่เมื่อระบบทักษิณเกิดขึ้นก็ใช้วิธีการนอกกฎหมาย


              นายชวน กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาใน 3 จังหวัดภาคใต้ปัจจุบัน เป็นเพราะจากนโยบายของ พ.ท.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หมดภายใน 3 เดือนนั้น ทั้งที่ตอนนั้นไฟใต้มอดแล้วในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีกลับใช้คำที่เรียกว่า โจรกระจอก และมียกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หันมาใช้นโยบาย ฆ่าหมดก็จบ ตรงนี้คือที่มาของการนองเลือดในขณะนี้


             “ตอนที่รัฐบาลได้เชิญนายอภิสิทธิ์ ไปพูดคุยเรื่องปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้นั้น ตนก็ได้บอกให้นายอภิสิทธิ์บอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคว่า ความผิดพลาดเกิดจากอะไร ว่า เกิดจากพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้วิธีการนอกกฎหมาย ซึ่งในที่สุดรัฐธรรมนูญปี 50 ก็ได้มีการเพิ่มในมาตรา 3 ซึ่งระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระ หน่วยงานอื่นของรัฐต้องยึดหลักนิติธรรม ซึ่งเหตุผลที่เพิ่มตรงนี้ เพราะต้องการย้ำให้รู้ว่าที่ผ่านมาใช้วิธีการนอกกฎหมาย คือสิ่งที่บอกให้รู้ว่าเป็นผลพวงจากความผิดพลาด จนต้องใช้ระเบียบบังคับไว้” นายชวน กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์