ไม่เห็นด้วยล้ม"รบ." โพลชี้ชัด ม็อบอ้าย-ไร้สาระ
อ้วนแนะตู่ทำใจ นลินี-ยุทธศักดิ์ ส่งคนเก็บของ ปูปลื้มถกญวน ร่วมมือขายข้าว โพลชี้ม็อบเสธ.อ้ายไร้เหตุผล
ในการขับไล่รัฐบาล เชื่อชาวบ้านเมินเข้าร่วม บช.น.จัด 3 กองร้อยคุมเข้มม็อบชุมนุมวันนี้ คาดไม่ต่ำกว่า 2 พันคนแต่ไม่ถึงหลักหมื่น สุกำพลมั่นใจตร.ดูแลได้ ยันไม่จำเป็นต้องกำชับผู้นำเหล่าทัพ ทุกคนรู้หน้าที่ดี รองโฆษกรบ.หวั่นใช้สนามม้านางเลิ้งเปิดช่องมือที่ 3 ป่วน "นพดล"เผยทักษิณเข้าพม่ากลางเดือนพ.ย.นี้ "ตู่"เมินไปพบเคลียร์ปมวืด ลั่นไม่เรียกร้อง ภูมิธรรมแนะให้ทำใจ เผยพรรคเลือกใช้คนตามสถานการณ์ มั่นใจไร้แรงกระเพื่อม "ยงยุทธ ติยะไพรัช"นัดส.ส.เชียงรายกินข้าว ปัดไม่มีนัยยะปม"วิสาร"แห้วรมต. พท.ยันนายกฯ ไม่หนีซักฟอก "มาร์ค"ย้ำอภิปรายแค่ 2 วัน เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ รมต.ไม่หวั่นเกม ถอดยศ ด้านนายกฯปูปลื้มถกครม.ไทย-เวียดนาม จับมือเป็นหุ้นส่วนค้าข้าว-ยางพารา
"ปู"แจงถกครม.ไทย-เวียดนาม
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ต.ค. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ถึงการเดินทางร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่า ตนและนายกฯ เวียดนามกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม และพบหารือทวิภาคีร่วมกัน ขณะเดียวกัน ครม.จะมีการประชุมแบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มการเมืองและความมั่นคง กลุ่มเศรษฐกิจ กลุ่มสังคมและวัฒนธรรม เป็น กรอบตามเสาหลักของอาเซียนด้วยกัน
นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องความมั่นคงเน้นการร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด ปราบปรามการค้ามนุษย์ และปัญหาเรือประมงเวียดนามที่ล้ำน่านน้ำไทยเข้ามาและถูกจับกุม รวมทั้งวิธีการเดินเรือของทั้ง 2 ประเทศเพื่อลดข้อพิพาทระหว่างกัน ไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ด้านเศรษฐกิจ หารือเพื่อเห็นชอบเพิ่มเป้าหมายการค้าระหว่างกัน 20 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปี 2555-58 เน้นเรื่องข้าวเป็นหลัก โดยจะร่วมลงนามประเทศผู้ผลิตข้าวอาเซียน 5 ประเทศ ลงนามจัดตั้งสมาพันธ์โรงสีข้าวและผู้ค้าข้าวอาเซียน เส้นทางคมนาคมเชื่อมไทยกับเวียดนามฝั่งตะวันออกไปฝั่งตะวันตก
จับมือเป็นแหล่งอาหารโลก
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ส่วนสังคมและวัฒนธรรมจะมีการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมเวียดนามในประเทศไทย แลกเปลี่ยนให้ทุนทางเวียดนามมาเรียน อบรมร่วมกัน แนวทางช่วยเหลือการเทคโนโลยี
"ในการหารือทวิภาคีนั้นจะหารือเรื่องการค้าข้าว ยางพารา ความมั่นคงทางอาหารที่ไทย-เวียดนามจะร่วมมือกันเป็นแหล่งอาหารโลก และยังมีเรื่องการแลกเปลี่ยนกับประเทศ อื่นๆ ในเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน อีกส่วนหนึ่งจะเป็นความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามค้ามนุษย์ และจะมีการลงนามในความร่วมมือด้านความมั่นคงไทย-เวียดนาม โดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และลงนามในบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ทางธุรกิจไทย-เวียดนาม ร่วมกับ 3 สถาบันของภาคเอกชน" นายกฯ กล่าว
"บิ๊กอ๊อด-ชัชชาติ"ถอนตัว
ต่อมาเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกฯ และ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขา ธิการนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เข้าร่วมการประชุม ครม.ร่วมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 2 ร่วมกับนายเหวียน เติ้น สุง นายกฯ เวียดนามและคณะรัฐมนตรีเวียดนาม ที่ศูนย์ประชุมไอซีซี กรุงฮานอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมช.คมนาคม ได้ขอถอนตัวภายหลังมีการทูลเกล้าฯ โผครม.ชุดใหม่ โดยเฉพาะพล.อ.ยุทธศักดิ์ ซึ่งมีข่าวระบุว่าไม่มีรายชื่อในโผ ครม.ครั้งนี้ เกรงว่าหากร่วมประชุมอาจมีผลผูกพันทางกฎหมายได้ จึงขอยกเลิกการร่วมประชุม โดยก่อนหน้านี้พล.อ.ยุทธศักดิ์ยกเลิกการประชุมประชาคมด้านการข่าวเมื่อวันที่ 26 ต.ค.เช่นกัน ขณะที่นายชัชชาติที่ตามกระแสข่าวว่าขยับไปดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม ก็ยกเลิกการร่วมเดินทางเช่นกัน เพราะเกรงว่าหากเข้าร่วมประชุมก็อาจส่งผลในทางกฎหมาย
"ปู"ฟุ้งผลสำเร็จตามเป้า
เวลา 12.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ศูนย์ประชุมไอซีซี กรุงฮานอย น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงร่วมกับนายเหวียน เติ้น สุง นายกฯ เวียดนาม ภายหลังการประชุม ครม.ร่วมไทย-เวียดนามอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2 ว่า การประชุมร่วม ครม.ไทย-เวียดนาม ว่างเว้นมากว่า 8 ปีแล้ว ไทยและเวียดนามเห็นพ้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมผลักดันความร่วมมือต่างๆ ให้คืบหน้า ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการศึกษา โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นจะสานต่อผลการหารือให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และยังยืนยันความพร้อมที่จะขยายความร่วมมือให้เพิ่มมากขึ้นในมิติที่หลากหลายและรอบด้าน
นายกฯ กล่าวว่า เวียดนามตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมประเทศผู้ผลิตยางพาราที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนธ.ค.นี้ ส่วนเรื่องข้าวเห็นพ้องถึงความสำคัญของความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี เพื่อร่วมกันรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และร่วมลงนามรับรองเอกสารสำคัญ 3 ฉบับระหว่างรัฐบาลและองค์กรภาคเอกชน
นายกฯ กล่าวว่า นายกฯ เวียดนามยังสนับสนุนบทบาทองไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียน การส่งเสริมความมั่นคงและสันติภาพในทะเลจีนใต้ การประชุมครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย และเชื่อมั่นว่ากรอบแนวทางความร่วมมือและความตกลงเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาส่งเสริมความร่วมมือไทย-เวียดนามในด้านต่างๆ ให้เจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์สุขร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ
"บิ๊กอ๊อด-นลินี"เก็บของ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันเดียวกันนี้ ( 27 ต.ค.) มีสื่อมวลชนจำนวนมากเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับครม.ปู 3 ที่นายกฯ นำรายชื่อทูลเกล้าฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยปักหลักรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตึกบัญชาการ 1 มีเจ้าหน้าที่ของพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ และทีมงานของนางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาขนของจากห้องทำงานออกไปทั้งหมด ท่ามกลางกระแสข่าวถูกปรับออกจากตำแหน่ง
เวลา 19.50 น. ที่ บน.6 น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากการร่วมประชุมครม.ไทย-เวียดนาม โดยกล่าวเพียงสั้นๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ใหม่ลงมาหรือยังว่า ไม่ทราบเลย จากนั้นเดินทางกลับบ้านพักทันที
"อ้วน"ลั่นไร้ขัดแย้งปรับครม.
เวลา 15.00 น. ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นคร ราชสีมา นายภูมิธรรม เวชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวถูกวางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่า เป็นเพียงข่าวลือ ขึ้นอยู่กับการออกเสียงของสมาชิกในการประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 30 ต.ค. เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งจะมีการปรับข้อบังคับพรรคเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น
นายภูมิธรรมกล่าวถึงการปรับครม.ว่า ไม่มีแรงกระเพื่อมและความขัดแย้งภายในพรรค เชื่อว่าสมาชิกทุกคนเข้าใจว่าพรรคอยู่ในภาวะที่ต้องการความสามัคคีให้มากที่สุด ภารกิจนี้เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างหลักประชา ธิปไตย รวมถึงฐานเสียงของพรรคให้เข้มแข็งและปรับโครงสร้างบริหารจัดการพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งหรือความระส่ำเกิดขึ้นแต่ยอมรับในทางการเมืองไม่สามารถที่จะทำให้ใครพึงพอใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มีแต่ทำอย่างให้เกิดความไม่สบายใจน้อยที่สุด
ปลอบ"ตู่"ทำใจ-ยึดพรรคเป็นหลัก
เมื่อถามว่าวันประชุมใหญ่วิสามัญต้องชี้แจงกับที่ประชุมหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ต้อง เรื่องนี้ไม่ใช่สาระหลักที่ต้องนำมาพูดในที่ประชุม เมื่อถามว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวตัดพ้อคนต่อสู้ไม่ได้ตำแหน่ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายจตุพรอาจไม่เข้าใจประเด็นเพราะการทำงานให้พรรคมีหลายมิติ เท่าที่ฟังเสียงการแถลงของนายจตุพร ก็ไม่เห็นว่าน้อยเนื้อต่ำใจ คนที่ไม่ได้ถูกเลือกไม่ได้หมายความว่าไม่มีศักย ภาพ แต่ต้องเข้าใจว่าสถานการณ์การเลือกใช้บุคคลต้องให้เหมาะสมกับภาวะและโอกาส นายจตุพรคงเข้าใจว่าต้องทำภารกิจอะไรให้พรรค จึงอยากให้มองพรรคเป็นหลัก อยากให้เข้าใจว่าไม่มีใครได้ตามความปรารถนา 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะความสัมพันธ์ระหว่างพรรคและคนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น
"เหลิม"ขู่พวกขัดใจทักษิณ
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงแรงกระเพื่อมของพรรคเพื่อไทย ระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนในรายชื่อของครม.ชุดใหม่ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขอให้จำไว้ว่าพรรคไม่มีกลุ่มก้อน หากใครขัดใจกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเหลือแต่ตัวกับเงา ต้องรู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณคิด พรรคเพื่อไทยทำ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าพ.ต.ท.ทักษิณมีส่วนร่วมปรับครม.ครั้งนี้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงสัญลักษณ์
เมื่อถามถึงกรณีแกนนำคนเสื้อแดงไม่พอใจหลังนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าใครอกหักหรือไม่อกหัก เพราะขณะนี้ยังไม่โปรดเกล้าฯ เป็นเพียงการคาดคะเนไปเองเท่านั้น
"ทักษิณ"เข้าพม่ากลางเดือนพ.ย.
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมายังเมืองท่า ขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ติดกับชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย วันที่ 30 ต.ค.นี้ว่า พ.ต.ท. ทักษิณมีกำหนดมาพม่าจริงในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพ.ย. แต่ยังไม่สามารถระบุเมืองและสถานที่แน่ชัดได้เพราะสถานที่ยังไม่นิ่ง คาดว่าจะพักอยู่ที่พม่า 1-2 วันเพื่อไหว้พระและสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นกำหนดการที่วางไว้นานแล้ว ไม่ได้มีนัยยะการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
"ตู่"ปัดไปพบแม้วเคลียร์ปมวืด
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มนปช. ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาพม่า บริเวณชายแดนไทยตรงจุดท่าขี้เหล็ก ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ว่า ตนยังไม่ทราบกำหนดการที่พ.ต.ท.ทักษิณจะมาท่าขี้เหล็ก และตนหรือแกนนำคนเสื้อแดงไม่มีกำหนดการจะเดินทางไปหาเพื่อเคลียร์เรื่องตำแหน่ง ครม.ของตนเอง อย่างไรก็ตาม ภายหลังไม่มีชื่อใน ครม.ชุดใหม่นั้นตนคงทำหน้าที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยต่อไป และทำงานให้คนเสื้อแดง คงไม่มีปัญหาและคงไม่ยื่นข้อเรียกร้องใดๆ
ส.ส.เชียงรายนัดกินข้าว"ยงยุทธ"
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง โดยวันที่ 28 ต.ค.นี้ ส.ส.เชียงรายมีนัดทานอาหารเที่ยงกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน คงจะมีความชัดเจน เพราะขณะนี้ข่าวออกมาจากกลุ่มเสื้อแดงคุยกันเท่านั้น ส่วนส.ส.ในพื้นที่ยังไม่มีใครรู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นการนัดทานข้าวประจำทุกเดือน ไม่ได้มีนัยยะการเมืองหรือเกี่ยวกับการปรับครม.ที่มีบางกระแสว่า นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและส.ส.เชียงราย หลุดโผครม. เพราะนายวิสารไม่ถือเป็นโควตาเชียงราย เนื่องจากโควตาของเชียงราย ไปอยู่ที่จ.เลยแล้ว ทั้งนี้ หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ พวกตนจะไปชมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมเชียงราย ยูไนเต็ด กับ ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ไม่ทราบว่านายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยจะมาชมการแข่งขันด้วยหรือไม่
พท.ยัน"ปู"ไม่หนีซักฟอก
ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 30 ต.ค.ว่า ที่ประชุมจะเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และลงมติด้วยวิธีลงคะแนนลับ จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 300 คน ประกอบด้วย รัฐมนตรี ส.ส. และสมาชิกพรรคกลุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นไปอย่างอิสระ ไม่มีใบสั่งจากใคร ทั้งสิ้น เป็นไปตามกฎระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากนั้นจะเสนอรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคว่าควรมีกี่ตำแหน่ง ซึ่งตามกฎหมายของ กกต.กำหนดว่ามีไม่น้อยกว่า 9 ตำแหน่ง และไม่เกิน 29 ตำแหน่ง จากนั้นเสนอชื่อบุคคล เพื่อให้ ที่ประชุมลงมติด้วยการลงคะแนนแบบลับ เช่นกัน
ร.ท.หญิงสุณิสากล่าวว่า เมื่อได้ทีมบริหารพรรคชุดใหม่ ในเดือนพ.ย.จะถือเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ของพรรค เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย รวมถึงการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ส.ก.และส.ข. โดยเฉพาะฝั่งธนบุรี ที่เริ่มดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว
"ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อยากขอให้ประชาชนเปิดใจรับฟังพรรคเพื่อไทยซึ่งมีข้อมูลพร้อมแจกแจงข้อเท็จจริงที่ถูกโจมตี ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุนายกฯ มีคิวเดินทางไปเยือนต่างประเทศบ่อยครั้งในเดือนพ.ย. เป็นการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากการเยือนต่างประเทศต้องได้รับการเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เกิดจากความต้องการของนายกฯ ฝ่ายเดียว" ร.ท.หญิงสุณิสากล่าว
"มาร์ค"ขอซักฟอกแค่ 2 วัน
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่สนามบินดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ 2 วัน คือ วันที่ 26-27 พ.ย.นี้ ถือว่าเพียงพอและเหมาะสม ส่วนประเด็นการอภิปรายจะเน้นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และเน้นคุณภาพการอภิปรายไม่ใช่จำนวนรัฐมนตรีที่จะอภิปราย ซึ่งหากพบว่ามีการทุจริตจริงฝ่ายค้านจะยื่นถอดถอนทันที ทั้งนี้ ต้องดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกครั้งว่าจะกระทบต่อการอภิปรายหรือไม่ ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจ
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ในฐานะผู้บริหารประเทศต้องถูกอภิปรายอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้รับผิดชอบ ขณะที่ตัวบุคคลของพรรคมีการแบ่งกลุ่มอภิปรายไว้ชัดเจนแล้วเช่นกัน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวล้มรัฐบาล หรือบันได 5 ขั้น ที่มีอักษรย่อเชื่อมโยงฝ่ายค้านด้วยนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ ส่วนการถอดยศตนนั้นอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง แม้กระทรวงกลาโหมพยายามเดินหน้าเพื่อถอดยศก็ตาม แต่หากการตรวจสอบมีการตั้งธงไว้อยู่แล้ว สุดท้ายตัว พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม จะมีปัญหาเอง
วิปรอโผครม.ค่อยเคาะญัตติ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้คณะทำงานเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเลือกอภิปรายแบบใดใน 3 ตัวเลือกคือ 1.การอภิปรายตัวนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ซึ่งต้องเสนอชื่อบุคคลมาเป็นนายกฯด้วย 2.การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และ 3.อภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งตัวนายกฯ และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนในการปรับ ครม.ก่อน ต้องรอโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมที่ จะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ส่วนตัวมองว่า การปรับ ครม.อาจมีผลกระทบบ้าง
เมื่อถามว่าจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบใด
ย้ำ"ปู"ต้องอยู่ฟังอภิปราย
เมื่อถามว่าถ้าเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์จะ มีปัญหาตามมาหรือไม่เนื่องจากกระทรวงกลาโหมตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาการถอดยศนายอภิสิทธิ์ ในข้อกล่าวหาใช้เอกสารไม่ถูกต้องในการเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) นายจุรินทร์กล่าวว่า ต้องได้ข้อสรุปก่อนว่าจะเลือกแบบที่ 1 ถึงจะมาคิดอีกครั้งว่าประเด็นดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
เมื่อถามว่ามีการจัดโปรแกรมการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศของนายกฯ หลายวันในเดือนพ.ย. อาจทำให้นายกฯ ไม่ได้เข้าฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์กล่าวว่า เบื้องต้นได้คุยกับนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล แต่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะใช้เวลา 2 หรือ 3 วัน ซึ่งต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วนตัวคิดว่านายกฯ ควรอยู่ฟังการอภิปราย ส่วนที่มองว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลที่มีน้ำหนักพอในการอภิปรายในครั้งนี้นั้น คิดว่าไม่เป็นไร แต่ฝ่ายค้านจะขอติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
โต้มีแผนจ้องล้มรัฐบาล
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีคนในรัฐบาลระบุมีแผนบันได 5 ขั้นจ้องล้มรัฐบาลว่า ยืนยันว่าไม่มี หากรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างถูกต้อง เที่ยงธรรม และเพื่อประโยชน์ของประชาชน การที่รัฐบาล กุข่าวกล่าวหานักการเมืองฝ่ายค้านโดยการระบุอักษรย่อต่างๆ เป็นการเล่นการเมืองแบบเก่า ไม่สร้างสรรค์ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ไม่ต้องการให้มีการตรวจสอบ
"ขอชมการปรับ ครม.ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ขัดขวางการถึงฝั่งฝันของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงไม่ให้เป็นรัฐมนตรี เพราะทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่นำคนที่มีแผล มีคดีติดตัวมาอยู่ในครม. ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์แสดงให้เห็นถึงการไม่อยู่ในอำนาจของพ.ต.ท. ทักษิณ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังมีอีกหลายคนที่ต้องขจัดออกไปด้วย" นายชวนนท์กล่าว
บช.น.จัด 3 กองร้อยคุมม็อบ
วันที่ 27 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม จัดการชุมนุมใหญ่หยุดวิกฤตและหายนะของชาติ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ที่สนามราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) ว่า ได้จัดเตรียมกำลังสนับสนุนเอาไว้ 3 กองร้อย จากบก.น.1, 8, 9 เพื่อเข้าดูแลพื้นที่ดังกล่าว พร้อมจัดกำลังของฝ่ายสืบสวนบก.น.1 ดูแลพื้นที่ โดยบริเวณประตูทางเข้าที่ 1 ที่จะใช้เป็นทางเข้านั้นจะตั้งจุด ศปก.สน.นางเลิ้ง เพื่อคอยดูแลและคัดกรองผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุม รวมถึงประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ การชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะเตรียมการดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป และคาดว่าจะไม่มีการชุมนุมยืดเยื้อ
เวลา 14.00 น. ที่สนามม้านางเลิ้ง พล.ต.ต. วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) 35 คน และสุนัขตำรวจ 8 ตัวเข้าตรวจพื้นที่ภายในสนามม้านางเลิ้ง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมีการชุมนุม โดยมีกลุ่มสมาชิกขององค์การพิทักษ์สยาม และเจ้าหน้าที่ของสนามม้านางเลิ้งเป็นผู้นำตรวจค้น เริ่มตรวจจากบริเวณเวที อัฒจันทร์ และบริเวณรอบพื้นที่ของสนามม้า นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบพื้นที่เพื่อบันทึกภาพเหตุ การณ์ตลอดช่วงที่มีการชุมนุมด้วย
"บิ๊กโอ๋"ลั่นทหารไม่ยุ่ง
ที่ บน.6 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของเครือข่ายองค์การพิทักษ์สยามว่า ในส่วนของทหารไม่จำเป็นต้องกำชับอะไรกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นพิเศษ เพราะรู้หน้าที่แล้วว่าต้องทำอะไร ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพแจ้งมายังตนว่าทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าว เชื่อว่าตำรวจดูแลสถานการณ์ได้ และไม่จำเป็นต้องส่งกำลังทหารเข้าไปเสริมกำลัง และตนอยากขอร้องสื่อมวลชนว่า ไม่ควรนำเสนอข่าวการชุมนุมมากนัก เพราะถ้าไม่นำเสนอข่าวเชื่อว่าการชุมนุมคงไม่มีปัญหาและจะยุติการชุมนุมไปเอง
คนอีสานเมินร่วมม็อบไล่รบ.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าคนจะมาร่วมชุมนุมไม่มาก เดิมประเมินว่าจะมีประชาชนจากภาคอีสานมาร่วม แต่เนื่องจากคนอีสานรักพ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเขาเลือกมากับมือ เขาจึงไม่ได้มาร่วมชุมนุมเพื่อขับไล่ครั้งนี้ ทั้งนี้ ตนขอถามน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อีกครั้งว่าเป็นใครถึงกล้าหาญชาญชัยขนาดนี้ เบื้องต้นตนขอเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมเพราะจะกระทบภาคการธุรกิจและการท่องเที่ยว ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม แต่ขอให้ ผู้ชุมนุมเคารพกติกาด้วย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ห่วงเรื่องจำนวนคนที่เข้าร่วมชุมนุม และพร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย แต่การเลือกชุมนุมที่สนามม้าอาจมีความเปราะบาง เอื้อให้มือที่สามเข้าไปก่อเหตุอะไรหรือไม่ แต่ยังเชื่อมั่นว่าประชาชนเข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองดี และพร้อมให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป
ชี้กลุ่มอำมาตย์ยังหนุน"มาร์ค"
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ที่สำคัญรัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้ง คนที่จะออกมาไล่ต้องมีจิตวิญญาณประชาธิปไตยและเข้าใจในวิถีแห่งสากล อย่าทำตัวเป็นเจ้าของประเทศเพียงกลุ่มเดียว เหยียบย่ำหัวใจประชาชน เชื่อว่าประชา ชนที่เลือกรัฐบาลชุดนี้จะไม่เข้าร่วมด้วย ซึ่งรัฐบาลจะไม่ปล่อยให้การชุมนุมนี้เกิดความรุนแรง และพล.อ.บุญเลิศบอกแล้วว่าจะขอกำลังตำรวจมาดูแลและยุติการชุมนุมในเวลา 17.30 น. คงจะรักษากติกา แต่ถ้าทำผิดกฎหมายหรือละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นต้องถูกดำเนินการ
"การที่พล.อ.บุญเลิศสารภาพว่าไปตั้งพรรคลงเลือกตั้งแข่งแล้วสู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ถึงออกมาไล่ด้วยวิธีการนอกระบบ เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของพวกอันธพาลการเมือง หวังตบทรัพย์ ข่มขู่รัฐบาลของประชาชน วันนี้จึงไม่อยากให้ทุกฝ่ายประมาทคนกลุ่มนี้ อำมาตย์ยังมีแรงหนุนและเดินอย่างต่อเนื่องในทุกก้าวอย่างเป็นกระบวนการ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เป็นนายกฯ ได้ทันที เพราะพวกเขาเคยทำให้นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ 2 ปี 8 เดือนมาแล้ว" นายอนุสรณ์กล่าว
โต้ข้อกล่าวหาไม่จงรักภักดี
ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของพล.อ.บุญเลิศ ว่า พรรคเคารพในสิทธิการชุมนุม แต่ขอให้ชุมนุมตามกรอบกฎหมาย เคารพสิทธิประชาชนที่ไม่เข้าร่วมการชุมนุม ส่วนข้อกล่าวหาขององค์การพิทักษ์สยามทั้งการไม่จงรักภักดีนั้น พรรคยืนยันว่าไม่เป็นความจริง รัฐบาลมีความจงรักภักดี รวมถึงได้ปราบปรามเว็บไซต์ไม่เหมาะสมไปแล้ว 7 หมื่น ยูอาร์แอล ส่วนที่อ้างว่าประชาชนทนไม่ไหวกับการบริหารประเทศของรัฐบาลก็ค้านกับผลสำรวจโพลต่างๆ ที่ระบุตรงกันว่าประชาชนพอใจและยังให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป
"ขอให้องค์การพิทักษ์สยามเปิดใจกว้าง รับฟังความเห็นต่าง ส่วนที่บอกว่าจะเปลี่ยนสนามม้าเป็นสนามกู้ชาตินั้น กลุ่มคนที่มาร่วมชุมนุมล้วนเป็นผู้ใหญ่ น่าจะใช้ศักยภาพเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้งที่มีภาพลักษณ์เป็นแหล่งอบายมุขเป็นสนามกีฬาจะดีกว่า เพื่อให้ได้รับความชื่นชมมากกว่านี้" ร.ท.หญิงสุณิสากล่าว
โพลชี้เป็นม็อบการเมือง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวน ดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,318 คน วันที่ 23-26 ต.ค. กรณี "การชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง" นำโดยพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในวันที่ 28 ต.ค. พบว่าร้อยละ 31.17 มองว่าเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถแสดงออกได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และร้อยละ 44.39 เห็นว่าเหตุผลที่ชุมนุมนั้นไม่สมเหตุสมผล เป็นเกมการเมือง ต้องการกดดันรัฐบาล ควรใช้การเจรจาหรือยื่นหนังสือมากกว่าออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว
ร้อยละ 45.84 เชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะไม่ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน เพราะรัฐบาลเคยประสบปัญหาลักษณะนี้มาแล้ว และร้อยละ 48.18 คิดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะไม่เกิดเหตุ การณ์บานปลายขึ้น เพราะผู้นำการชุมนุมยืนยันว่าจะชุมนุมอย่างสงบ และไม่น่าจะมี ผู้เข้าร่วมการชุมนุมจำนวนมาก เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ ร้อยละ 47.09 ยังอยากให้การชุมนุมครั้งนี้เป็นไปด้วยความสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อย และอยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้น
คาดม็อบไม่ต่ำกว่า2พันคน
พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. กล่าวถึงจำนวนผู้ชุมนุมว่า การประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมต้องตรวจสอบอีกครั้ง เพราะเห็นว่ามีการนัดหมายมาจากต่างจังหวัดด้วย คาดว่ามาไม่ต่ำกว่า 2 พันคน แต่คงไม่ถึงหลักหมื่น การข่าวก็ไม่น่ารุนแรง เพราะได้ประกาศว่าหากหมดหัวข้ออภิปรายก็จะแยกย้ายกันเดินทางกลับ ไม่ยืดเยื้อ
เมื่อถามว่าการดูแลสถานที่ราชการ เช่น ทำเนียบรัฐบาล หรือรัฐสภา ดูแลอย่างไร พล.ต.ต.ปริญญากล่าวว่า ส่วนนี้มีกำลังดูแลอยู่แล้ว ทั้งตำรวจนครบาลและสันติบาล ไม่น่าเป็นห่วง อีกทั้งเป็นวันหยุดจึงไม่มีเหตุที่ต้องเดินทางไป ซึ่งเที่ยงคืนวันนี้ ตนจะไปปล่อยแถวตำรวจเตรียมความพร้อม เชื่อว่าสถาน การณ์ทุกอย่างควบคุมได้แน่นอน
พท.สัมมนารับศึกเลือกผู้ว่าฯกทม.
เวลา 13.30 น. วันที่ 27 ต.ค. ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ประธานโซน 3 กทม. ฝั่งธนบุรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างเป็นประธานสัมมนาสมาชิกพรรคเพื่อไทย โซนธนบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า มั่นใจว่าพรรคจะได้รับความไว้วางใจไม่ว่าส่งใครลงแข่งขันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากพรรคมีจุดแข็งด้านนโยบาย และการเลือกผู้สมัครที่เป็นพรรคเดียวกับรัฐบาล จะทำให้การประสานงานกับรัฐบาลราบรื่น เพราะหากเป็นคนละพรรค ผู้ว่าฯ กทม.อาจไม่เข้าร่วมประชุม
"เมื่อวานนี้ ผมพบกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เห็นสีหน้าไม่ค่อยสบาย จิตใจดูห่อเหี่ยว ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็โรยราแล้ว ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมจะเปิดตัวขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ระหว่างนี้ก็ลงพื้นที่หาเสียง นำเสนอนโยบายไปก่อน ผมจะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ ไม่ว่าพรรคจะมีมติส่งใคร ผมพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นายสุธรรม แสงประทุม รองประธานภาคกทม. โซนตะวันตก พรรคเพื่อไทย กล่าวในการสัมมนาว่า พรรคจะเน้นเรื่องนโยบายรัฐบาลที่เป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน อาทิ การแก้ไขปัญหายาเสพติด กองทุนเอสเอ็มแอล ทั้งนี้ มั่นใจว่าพรรคจะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ถือเป็นหลักประกันที่ทำให้ประชาชนมั่นใจ ส่วนตัวผู้สมัครนั้นจะมีการหารือร่วมกับผู้ใหญ่อีกครั้ง
ไม่เห็นด้วยล้มรบ. โพลชี้ชัด ม็อบอ้าย-ไร้สาระ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ไม่เห็นด้วยล้มรบ. โพลชี้ชัด ม็อบอ้าย-ไร้สาระ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำครม.ไทยประชุมร่วมกับนายเหวียน เติ้น สุง นายกฯ และครม.เวียดนาม ที่กรุงฮานอย