ปธ.วิปฝ่ายค้านเผยยังไม่สรุปวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ

              นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ขณะนี้คณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเลือกยื่นญัตติอภิปรายแบบใดใน 3 ตัวเลือกคือ 1.การอภิปรายตัวนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ซึ่งหากเลือกการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรานี้จะต้องเสนอชื่อบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย 2.การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และ 3.อภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตามต้องรอดูความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนว่ารัฐมนตรีคนใดจะถูกปรับเข้าและบุคคลใดจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ ดังนั้นจึงต้องรอความชัดเจนในการโปรดเกล้าฯลงมาก่อน รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าการปรับครม.อาจจะมีผลกระทบบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วความชัดเจนในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคงจะไม่ต้องรอความชัดเจนของการปรับ ครม.

              เมื่อถามว่าจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เนื่องจากเวลานี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบที่ 1 หรือไม่จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ส่วนถ้าเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์แล้วจะมีปัญหาตามมาหรือไม่เนื่องจากกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาการถอดยศ ร.ต. ของนายอภิสิทธิ์ในข้อกล่าวหาว่าใช้เอกสารไม่ถูกต้องในการเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) นั้น คงต้องได้ข้อสรุปก่อนว่าจะเลือกแบบที่ 1 ถึงจะมาคิดอีกครั้งว่าประเด็นดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

             เมื่อถามว่ามีรายงานว่ามีการจัดโปรแกรมการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีหลายวันในเดือน พ.ย.อาจทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการคุยกับนายอุดมเดช รัตนเสถียรประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แล้ว 1 ครั้ง แต่ก็เป็นการคุยกันโดยยังไม่มีข้อสรุป ในเรื่องการกำหนดวันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าจะใช้เวลา 2 หรือ 3 วัน มากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่านายกรัฐมนตรีควรจะต้องอยู่ฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนประเด็นที่ว่าฝ่ายค้านอาจไม่มีข้อมูลที่มีน้ำหนักพอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้นั้น คิดว่าไม่เป็นไร แต่พรรคฝ่ายค้านจะขอทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

             อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าวันเดียวกันนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บเอกสาร ขนย้ายโต๊ะ สิ่งของสำคัญจากห้องทำงานตึกบัญชาการ หลังจากทราบว่าจะหลุดจากตำแหน่ง ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่มาเก็บเอกสารสำคัญเช่นเดียวกัน โดยมีข่าวว่า เตรียมย้ายไปที่ทำงานใหม่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี