3 พรรคแจงรัฐตั้งเงื่อนไขไม่จริงใจเจรจา - ตั้งทีมจับผิด ทรท.หาเสียง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2549 14:54 น.

ฝ่ายค้านแจงเหตุคว่ำเวทีเจรจา ระบุรัฐบาลไม่ได้ต้องการเจรจาจึงสร้างเงื่อนไขเกินที่จะรับได้ ชี้หลังเลือกตั้งสารพัดปัญหารุมเร้าแม้จะดันทุรังเปิดสภาฯ ทั้งที่ ส.ส.ไม่ครบ 500 เตรียมตั้งคณะกรรมการร่วม จับผิดคำพูด ทักษิณ ลงพื้นที่หาเสียงหว่านสารพัดสัญญา -ใส่ร้ายพรรคร่วมฝ่ายค้าน

วันนี้ (21 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคมหาชน

โดยภายหลังการหารือกว่า 2 ชั่วโมง นายจุรินทร์ แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงการที่องค์กรต่างๆพยายามที่จะให้ตัวแทนจากรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยในส่วนของเวทีมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือพีเน็ตนั้น หลังจากที่ได้รับรายงานจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม และได้มีการประเมินร่วมกันใน 3 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เห็นว่าคงเกิดผลในทางปฏิบัติยาก แม้ 3 พรรคร่วมยินดีให้ความร่วมมือ เพราะดูจากรัฐบาลแล้วเห็นว่าเงื่อนไขต่างๆ ที่รัฐบาลเสนอล้วนเป็นเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคในการเจรจา เพราะมีเจตนาไม่ต้องการให้มีการเจรจาเกิดขึ้น เพราะเงื่อนไขสูงจนฝ่ายต่างๆ ไม่สามารถรับได้ โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ไปร่วมอีก จึงชัดเจนว่าโอกาสที่การเจรจา 3 ฝ่ายนี้เกิดขึ้นได้ยาก และคาดว่าคงจะจบลงในส่วนของพีเน็ต

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเวทีของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) นั้นยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ประกาศว่าจะไม่ร่วม เพราะมีลักษณะการเจรจาแบบปิด เพราะปัญหาทั้งหมดเป็นปัญหาสาธารณะ ซึ่ง 3 พรรคร่วมและกลุ่มพันธมิตรฯ เห็นตรงกันว่าเป็นปัญหาสาธารณะควรเจรจาแบบเปิดต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งไม่ตรงกับรัฐบาล ดังนั้น โอกาสที่จะเจรจาครั้งนี้จึงไม่ง่าย และในที่สุดได้ข้อสรุปว่าเวทีการเจรจาในขณะนี้เกิดขึ้นได้ยาก และสิ่งที่ทำให้ยากยิ่งขึ้น คือ พฤติกรรมตีสองหน้าของรัฐบาล ที่ด้านหนึ่งบอกว่าถอย แต่อีกด้านหนึ่งกลับเดินสายโจมตีฝ่ายต่างๆ และมีลักษณะรุนแรงขึ้นทุกวัน จึงไม่เป็นผลดีต่อการสร้างบรรยากาศในการเจรจาหาทางออกร่วมกัน ซึ่งนายกฯ ควรเลิกพฤติกรรมนี้โดยเร็วที่สุด

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีความเห็นร่วมกัน คือ จะตั้งคณะกรรมการติดตามพฤติกรรมการหาเสียงผิดกฎหมายขึ้นมา 1 ชุด โดยมีตัวแทนจาก 3 พรรค ซึ่งมีนายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ตัวแทนจากพรรคชาติไทย และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ตัวแทนจากพรรคมหาชน เป็นตัวหลัก เพื่อติดตามพฤติกรรมการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ไม่ชอบมาพากลหรือผิดกฎหมาย อาทิ สัญญาว่าจะให้ เสนอให้ หรือใส่ร้ายจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกัน โดยเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้และมีความเชื่อตรงกันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าดันทุรังไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.นี้อย่างแน่นอน แต่เชื่อว่าแม้การเลือกตั้งจะผ่านพ้นแล้ว ปัญหาก็ยังไม่จบ เพราะการเลือกตั้งไม่ชอบธรรมตั้งแต่ต้น วันนี้มีข้อมูลต่างๆ เปิดเผยออกมาตามลำดับว่าเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกอย่างแน่นอน และจะมีข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยออกมามากขึ้น นอกจากนี้ เห็นว่าแม้จะผ่านการเลือกตั้งไปได้ก็จะมีปัญหาอุปสรรคต่างๆ ตามมา เช่น ได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 คน ทำให้เปิดประชุมสภาฯไม่ได้ ทำให้เลือกนายกฯไม่ได้ และปัญหาจะคาราคาซังและจะพยายามซิกแซกวิธีการใดก็ตามเพื่อให้เปิดสภาปัญหาก็จะไม่จบ เพราะต้นตอปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ที่สำคัญคือ สถานการณ์ ณ วันนี้ เวลานี้ที่เป็นห่วงมากก็คือเรื่องความรุนแรง โดยเฉพาะที่น่าเป็นห่วง คือ พฤติกรรมของรัฐบาลพยายามที่จะปลุกระดมเอาคนไทยมาชนกัน ซึ่งปรากฏให้เห็นชัดเจนแล้วและมีความพยายามที่จะทำอย่างนี้ในคนหลายกลุ่มมากขึ้นจนเกรงว่าจะกลายเป็นม็อบชนม็อบ ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะมีส่วนสำคัญในการสร้างสถานการณ์และสามารถเล็งเห็นผลตั้งแต่ต้นแล้วว่าวันหนึ่งจะนำไปสู่ความรุนแรงโดยจะกลายเป็นตราบาปของรัฐบาล และนายกฯ