แดงกันเพรียวพันธ์นั่งหัวหน้า

นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
 
เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คงจะไม่เป็นหัวหน้าพรรค เพราะเพิ่งเกษียณ หากจะมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเลย บารมีทางการเมืองไม่พอ

“ผมมองว่า พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม มีความเหมาะสมที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ท่านเป็นผู้ใหญ่และก็นิ่งไม่เคยพูดจาอะไรทำให้คนเสื้อแดงสะเทือนใจ มีวุฒิภาวะและเคยต่อสู้กับคนเสื้อแดงมา แต่ถ้าท่านไม่รับเป็นสิทธิของท่าน แต่สำหรับผมแล้วมองว่าท่านเหมาะ” นายวรชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม การเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 30 ต.ค.นั้น เป็นความต้องการจากคณะผู้บริหารส่วนหนึ่ง กับความต้องการของคนเสื้อแดงว่าจะเลือกใครเป็นกรรมการบริหาร

“พรรคอาจมีใครอยู่ในใจที่มีความเหมาะสมแล้ว แต่ก็ต้องดูคนเสื้อแดงด้วย เราต้องการคนที่ต่อสู้กันมาอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ ยามทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน สุขก็สุขด้วยกัน ไม่หนีหายไปไหน ไม่ใช่พอชนะแล้วกลับเข้ามา แต่พอแพ้หนีหายไปหมด อย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรม” นายวรชัย กล่าว

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
 
การปรับคณะรัฐมนตรีคงไม่เกิดขึ้นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะข้อมูลฝ่ายค้านและการชี้แจงของรัฐมนตรีจะทำให้การพิจารณารอบคอบมากขึ้น ดังนั้นน่าจะเป็นปรับ ครม.ครั้งเดียวหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ

อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลต้องรีบชี้แจงและแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีให้เร็วที่สุด ก่อนฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
 
เปรียบเหมือนการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน หรือการเอาลมออกจากเรือของฝ่ายค้านก่อน เพราะถ้าให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน การแถลงผลงานของรัฐบาลก็จะเหมือนการชี้แจง ซึ่งน้ำหนักจะน้อยกว่า และรัฐบาลสามารถชี้แจงในสภาได้อยู่แล้ว