สุขุมพันธุ์ลั่นลงชิงผู้ว่าฯกทม.ไม่ลาออกก่อนครบวาระ

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.

ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะผู้บริหารว่า ในวันนี้ได้มีการรายงานความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยเพิ่มเติมจากที่มีประชาชนตกสำรวจรอบ 2 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่ต้องขออนุมัติจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จำนวน 1,142 ล้านบาท ซึ่ง กทม.ได้ทำหนังสือสอบถามถึงความคืบหน้าไปยัง ปภ.อย่างเป็นทางการและได้ประสานอย่างไม่เป็นทางการ  ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา คาดว่ายังติดขัดข้อระเบียบ ตนเองไม่ห่วงกรณีที่หลายฝ่ายโยงเรื่องเงินเยียวยาเป็นประเด็นทางการเมือง และยืนยันว่าอยากให้รัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงินเยียวยา ไม่ใช่ กทม. เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล โดย กทม.เป็นเพียงผู้ดำเนินการ แต่ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่จ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชน สภา กทม.และคณะผู้บริหารกทม. จะร่วมกันพิจารณาเพื่อแก้ไขข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2536 ให้ กทม.สามารถทดรองจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งออกข้อบัญญัติฯ ให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะการลาออกก่อนครบวาระในวันที่ 10 มกราคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า
 
คงไม่ลาออกก่อนครบวาระ แต่จะไม่อยู่รักษาการจนถึงวันเลือกตั้งเพราะจะลงสมัครอีก  จะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ก่อน 60 วันสุดท้ายในวาระ คือก่อนวันที่ 10 พฤศจิกายน จะแถลงผลงานการทำงานตลอดระยะ 4 ปีที่ผ่านมา

"ผมคงให้คะแนนตัวเองไม่ได้ คงต้องให้ประชาชนเป็นผู้ประเมิน แต่ในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ผมยังไม่พอใจในผลงาน เพราะหลายโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดขัดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง 2 ปี และอุทกภัย 6 เดือน ส่วนคู่แข่งลงสมัครเลือกตั้ง ตนไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติ แต่ขอทำงานในหน้าที่ของตนเองดีกว่า" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว และว่าถึงความคืบหน้าการก่อสร้างสนามฟุตซอลว่า สนามคงไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่เสร็จ การทำงานตลอด 24 ชั่วโมง มันเหนื่อยยาก และก็ยังรอพื้นสนามจากจีน ที่จะมาถึงประมาณวันที่ 26 ตุลาคม หรืออย่างช้าวันที่ 29 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม กทม.มีหน้าที่ทำสนามให้เสร็จ ไม่กังวลที่ฟีฟ่าเปลี่ยนโปรแกรมการแข่งขัน เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กทม.