“เต้น”ท้า“มาร์ค-เทือก”ดีเบตแจงชายชุดดำออกทีวีของแต่ละฝ่าย ซัดปชป.จัดเวทีผ่าความจริงฯ หวังล้มรัฐบาล
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีพรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัย "เดินหน้าผ่าความจริง ใครบงการคนชุดดำ รับจ้างฆ่าประเทศไทย" เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่สวนลุมพินี ว่า พรรคประชาธิปัตย์ใช้ไม้ตายด้วยการตั้งเวทีนี้เพื่อใส่ร้ายป้ายสี ทำลายความน่าเชื่อถือ และสร้างความหมางใจกันระหว่างคนในพรรคเพื่อไทย รวมถึงสร้างความไม่เข้าใจกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับประชาชน เพราะเกมของพรรคประชาธิปัตย์ในตอนนี้คงจะได้ข้อสรุปแล้วว่าการติดตามและตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลคงจะต้องลดละและผ่อนน้ำหนักลง เพราะยิ่งตามก็ยิ่งห่าง เนื่องจากผลวิจัยเชิงสำรวจของสำนักวิจัยต่างๆ เห็นชัดว่าคะแนนความนิยมและการยอมรับตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มากขึ้นทุกที
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินสายเปิดเวทีปราศรัยที่เน้นประเด็นเรื่องชายชุดดำแบบนี้มากขึ้นและเข้มข้นขึ้นอีก แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่นเกมนี้เป็นหลัก และจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะเดินสายเปิดเวทีดังกล่าว เพื่อทดสอบกระแสจากการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม ที่นำโดยพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ขณะเดียวกันเป็นการตอกย้ำความแตกแยก เหยียบย่ำความสูญเสียของประชาชน และไม่มีทางที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะสร้างประเด็นโกหกรายวันเพื่อใส่ร้ายทำให้รัฐบาลขาดความน่าเชื่อถือ แล้วจะหาจังหวะล้มรัฐบาลในที่สุด
แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวอีกว่า ตนขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ว่าวิธีการที่พวกเขาทำและข้อกล่าวหาที่ใช้อยู่นั้นไม่ได้แตกต่างกับสิ่งที่ทำในตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เป็นการพูดเรื่องชายชุดดำเหมือนเดิม และท่าร้องไห้ของนายสุเทพก็เป็นท่าเดิมในการปราศรัยที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2554 อีกทั้งนายอภิสิทธิ์พยายามกล่าวหาใส่ร้ายว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก้าวเข้าสู่อำนาจโดยเหยียบศพของประชาชน ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยก้าวเข้าสู่อำนาจรัฐด้วยชัยชนะในการเลือกตั้งทุกครั้งตั้งแต่ปี 2544 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์กลับก้าวสู่อำนาจโดยไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่เหยียบซากศพระบอบประชาธิปไตยแล้วใช้ชีวิตของประชาชนจากเหตุการณ์การชุมนุมมาปกป้องอำนาจของตัวเอง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนจะใช้การแถลงข่าวชี้แจงผ่านสื่อมวลชน แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นทำให้ได้รับความยอมรับจากประชาชน ก็อาจจะให้ทั้ง 2 ฝ่าย มาชี้แจงแบบการดีเบตต่อกัน ระหว่างตนและนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ แล้วให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่สนับสนุนแต่ละฝ่าย คือสถานีโทรทัศน์บลูสกาย กับสถานีโทรทัศน์เอเชีย อัพเดท ถ่ายทอดสดออกอากาศพร้อมกัน และเมื่อพูดกันในเวทีนี้เสร็จแล้ว ทุกอย่างก็ต้องจบ แล้วให้ประชาชนใช้วิจารณญาณตัดสิน ซึ่งวิธีนี้ดีกว่าการใช้วิธีลอบกัดอย่างที่เป็นอยู่
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ตนไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ในระยะหลังๆนั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้กลัวว่าจะถูกคุมขังอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา แต่เป็นเพราะอยากให้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ข้อเท็จจริงไปตามกระบวนการ ส่วนข้อสรุปของคณะกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ที่ระบุว่ามีชายชุดดำอยู่จริงนั้น กระบวนการของ กสม.ยังไม่สามารถสรุปหรือตรวจสอบเรื่องนี้ได้ และปัญหาอยู่ที่ตัวประธานกสม.ซึ่งเคยไปขึ้นเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อีกทั้ง กสม.ไม่ควรสรุปแบบนั้นเพราะไม่ใช่ศาล จึงควรรอคำพิพิกษาของศาลก่อน รวมถึงกสม.ควรออกมาระบุรายละเอียดเกี่ยวกับชายชุดดำให้ชัดเจน