แก้วสรรยื่นศาลปกครอง สั่งปล่อยหนังสือ หยุดระบอบทักษิณ พรุ่งนี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2549 20:02 น.
แก้วสรรเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง สั่งตำรวจปล่อยหนังสือ หยุดระบอบทักษิณ 2 หมื่นเล่มทันทีพรุ่งนี้ ชี้ตำรวจทำเกิน ยึดหนังสือไว้ก่อนแจ้งข้อหา เชื่อหนังสือไม่ขัดต่อความมั่นคงของบ้านเมือง แต่ขัดต่อความมั่นคงของระบอบทักษิณ
นายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กรุงเทพมหานคร กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สี่แยกมิสกวัน เมื่อช่วงเย็นที่ผ่าน กรณีที่ตำรวจยึดหนังสือ หยุดระบอบทักษิณ ไว้จำนวน 2 หมื่นเล่ม ว่า หลังจากที่ได้หารือกับศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว ได้ตัดสินใจจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) เพื่อให้ตำรวจคืนหนังสือทั้ง 2 หมื่นเล่มทันที
สำหรับหนังสือดังกล่าว จัดทำเนื้อหาโดยนายแก้วสรร อติโพธิ นายขวัญสรวง อติโพธิ และคณะ เป็นหนังสือปกอ่อนจำนวน 32 หน้า เคยแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวงมาแล้ว ต่อมาเครือข่ายพันธมิตรฯ ได้จัดพิมพ์เพิ่มจำนวน 2 หมื่นเล่ม และเตรียมนำมาแจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (21มี.ค.) แต่ถูกตำรวจ สน.ดุสิตยึดไว้เสียก่อนทั้ง 2 หมื่นเล่ม
นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ ตนได้ไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ดุสิต ให้ยึดไว้ตรวจสอบจำนวน 200 เล่ม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม บอกต้องยึดไว้ทั้ง 2 หมื่นเล่มเพื่อตรวจสอบ ในที่สุดได้ความว่าสันติบาลมาอ่านแล้ว สงสัยเป็นเบื้องต้นว่า อาจจะขัดกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตนได้ขอคุยกับตำรวจสันติบาล โทรคุยกัน ก็บอกว่า ภายในวันนี้ (21มี.ค.) จะวินิจฉัยให้เรียบร้อย ซึ่งตนได้ขอให้เอาไปตรวจสอบ 10 เล่มก่อน แต่เขาก็ไม่ยอม ในที่สุดสันติบาลบอกว่าจะวินิจฉัยเสร็จภายใน 1 อาทิตย์
นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า หนังสือเล่มนี้ถ้าผิดกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อย เป็นภัยต่อความมั่นคง ตนจะติดคุกอย่างต่ำ 7 ปี แต่หนังสือเล่มนี้ เป็นการมองรอบอบทักษิณทั้งระบอบ ประเด็นหลักของหนังสือเล่มนี้ พูดถึง4 เรื่อง คือ 1. ระบอบทักษิณยักยอกรัฐธรรมนูญ 2. ระบอบทักษิณหลงใหลทุนนิยมใหม่ เปิดประเทศเพื่อเอาเงินฝรั่งเข้ามา ทำให้สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดสินค้าภายใน 3.ระบอบทักษิณโกงกินประเทศ และ4.ระบอบทักษิณทำให้บ้านเมืองสิ้นความสงบสุข
ส.ว. กทม. กล่าวอีกว่า การปฏิบัติตามกฎหมายการพิมพ์ ถ้าเห็นว่าหนังสือเล่มนี้ขัดต่อความสงบฯ เขาต้องหนังสือเตือนมายังผู้เขียน หรือพันธมิตรฯ ว่าข้อความในหน้าไหน บรรทัดไหนที่ขัดต่อความสงบฯ จากนั้นตนจะแย้งว่าไม่ใช่ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อถึงจะออกคำสั่งระงับการพิมพ์และจำหน่าย จากนั้นจึงจะสั่งยึดหนังสือ ซึ่งตนก็จะไปสู้คดีที่ศาลปกครองต่อไป
แต่นี่ มันไม่มีการเตือน มันยึดหนังสือไว้ก่อน ขออ่านก่อน แล้วถ้าไม่มีอะไรค่อยปล่อยคืน ซึ่งมันไม่มีในกฎหมายที่ให้ทำอย่างนี้นายแก้วสรรกล่าว
ส.ว. กทม. กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นการปิดหูปิดตาประชาชน ห้ามออกทีวียังไม่พอ ทำหนังสือแจกจ่าย ก็จับกันอีก วันนี้ ตนจะเอามาเดินแจกตรงนี้ แน่จริงให้จับเลย เพราะรัฐธรรมนูญห้ามเซนเซอร์หนังสือ และไม่มีระบบการดูเนื้อหาก่อนพิมพ์
หนังสือเล่มนี้ มันอาจจะขัดต่อความมั่นคงของระบอบทักษิณ แต่ไม่ได้ขัดต่อความมั่นคงของบ้านเมือง ผมรักกฎหมาย แต่ไม่รักระบอบทักษิณ ตอนนี้ผมสั่งพิมพ์เพิ่มแล้ว จะเอามาแจกที่นี่ ดูซิว่าจะจับไหม แน่จริงมาจับเลย จะตั้งข้อหาถูกไหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายแก้วสรร ลงจากเวทีแล้ว มีประชาชนจำนวนหนึ่ง มาขอหนังสือที่นายแก้วสรรนำติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่ง และนายแก้วสรรได้เอาหนังสือไปแจกตำรวจทุกคนที่มาดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ริมรั้วเหล็กกั้น และบอกกับตำรวจว่า ให้เอาไปอ่าน จะได้หูตาสว่าง หลังจากแจกเสร็จได้เดินกลับมาข่างเวที และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า พรุ่งนี้จะไปศาลปกครอง เพราะหนังสือที่ยึดไว้ ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่เป็นการยึดไว้เพื่อปกปิดข้อมูล
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กรณีการยึดหนังสือและผู้รณรงค์ของพันธมิตร ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าตำรวจส่งหนังสือหลายพันเล่มกลับคืนโรงพิมพ์ที่พันธมิตรว่าจ้างให้พิมพ์ เอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจน ซึ่งหากยังไม่มีการคืน พันธมิตรจะส่งตัวแทนและทนายความเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อฟ้องให้เพิกถอนคำสั่งจับกุมและให้คืนหนังสือ และในวันนี้พันธมิตรได้สั่งพิมพ์เพิ่ม 5 หมื่นเล่ม เพื่อนำมาเผยแพร่ต่อไป หลังจากชุดแรกได้สั่งพิมพ์ไปแล้ว 1 แสนเล่ม
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเอกสารที่ชี้อันตรายของระบบทักษิณ ที่มีความซับซ้อน ต้องทำความเข้าใจลึกซึ้ง หากใครได้อ่านก็จะเข้าใจอันตรายของระบอบนี้ และเข้าใจว่าทำไมพันธมิตรฯจึงเรียกร้องให้ทักษิณลาออก และปฏิรูปการเมืองรอบสอง ซึ่งไม่ได้เข้าข่ายหมิ่นประมาทนาย ก. นาย ข. หรือเข้าข่ายล้มล้างระบอบการปกครองใด ๆ มิหนำซ้ำ ยังเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วย
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การดำเนินของเจ้าหน้าที่ต้องใช้ดุลยพินิจอย่างละเอียด ทราบว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะมีเจ้าหน้าที่รายหนึง ที่มีทัศนะคติไม่ดีต่อการชุมนุมเป็นคนสั่งการ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ก็เห็นหนังสือเล่มนี้กระจายในที่ชุมนุมมาหลายวันแล้ว และไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร