“ปู”ขยับจัดโผครม.ส่งพี่แม้ว “สุชาติ-ชัจจ์-นลินี-แมว”กระเด็น
“ปู”ขยับจัดโผครม.ส่งพี่แม้ว “สุชาติ-ชัจจ์-นลินี-แมว”กระเด็น
รายงาน ข่าวจากตึกไทยคู่ฟ้าแจ้งว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกตัวบรรดารัฐมนตรีที่จะถูกสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่งเข้ามาพบที่ทำเนียบ รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรุปผลงานและปัญหาในการทำงานต่างๆ นำมาประกอบการพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็ได้เรียกบรรดาแคนดิเดตผู้ที่มีสิทธิเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเข้าพบ เช่นกัน เพื่อสอบสัมภาษณ์และจัดวางตำแหน่งให้เหมาะสมในขั้นสุดท้าย โดยจะดำเนินการจัดทำโผ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ให้ แล้วเสร็จก่อนที่สุดสัปดาห์นี้จะปรึกษาหารือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐนตรี ที่เดินทางมาปักหลักติดตามสถานการณ์อยู่ที่เกาะฮ่องกง เป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดถือโผไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนปกติ แต่จะครั้งนี้ใช้วิธีการสไกป์หรือติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยตัวเอง คาดว่าโผ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ไม่เกินวันที่ 8 ต.ค.นี้ และหาโอกาสเหมาะสมเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในช่วง 2 - 3 วัน ที่ผ่านมามีความคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากส่วนใหญ่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเพียงภารกิจภายนอกทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า และเข้ามาปฏิบัติงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าจนค่ำทุกวัน โดยได้มีรัฐมนตรีและแคนดิเดตรัฐมนตรีเดินทางเข้าพบหลายราย อาทิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอารักษ์ ชลธารนนท์ รมว.พลังงาน และนายภูมิธรรม เวชชยชัย อดีต รมช.มหาดไทย เป็นต้น โดยนายปรีชาและนายอารักษ์ลงมาจากตึกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ต่างจากนายภูมิธรรมที่เดินพูดคุยกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาจากตึก ก่อนที่จะข้ามไปยังตึกบัญชาการ 1 ซึ่ง เป็นที่ทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายภูมิธรรมใช้โอกาสนี้ในการดูห้องทำงานไว่ล่วงหน้า ที่ขณะนี้มีห้องทำงานของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่างอยู่เพียงห้องเดียว
รายงาน ข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนรายชื่อของรัฐมนตรีที่มีโอกาสหลุดออกจากตำแหน่งค่อนข้างแน่นอนแล้ว ได้แก่ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ที่ผลงานไม่เป็นที่พอใจของ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังจะถูกขึ้นบัญชีดำจากพรรคเนื่องจากออกมาวิจารณ์นโยบายของรัฐบาล นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะถูกปรับออกตั้งแต่ครั้งก่อน แต่ก็สามารถขยับจาก รมว.ศึกษาธิการ มานั่งเป็น รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี มาครั้งนี้จะถูกปรับออกเพื่อสลับให้บุคคลอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนหลังจากได้ เป็นรัฐมนตรีมาปีเศษ นางนลินี ทวีสิน รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี จะถูกปรับออกเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่พอใจผลการดำเนินโครงการกองทุนพัฒนาสตรีที่ นางนลินี ดูแลอยู่
ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ก็จะถูกปรับออกเช่นกันเนื่องจากที่มีความเห็นไม่ตรงกับแนวทางรัฐบาลในส่วนของโครงการ รถไฟสายสีแดงรังสิต-บางซื่อ ส่วน นายอารักษ์ ชลธารนนท์ รมว.พลังงาน นั้นมีกระแสข่าวว่า จะแจ้งความจำนงค์ขอออกจากตำแหน่งเอง เนื่องจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการวางโครงสร้างทางด้านพลังงานไว้เสร็จเรียบ ร้อยแล้ว แต่อาจต้องโยกมานั่งเป็น รมว.ศึกษาธิการ หากไม่สามารถหาบุคคลที่เหมาะสมได้ ขณะเดียวกัน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและ รมว.คลัง มีโอกาสถูกลดชั้นไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล จากกรณีโกหกสีขาวหรือไวท์ไลน์อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ส่วนรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาร่วม ครม.ที่แน่นอนแล้วนอกเหนือจากนายภูมิธรรมที่มี โอกาสสูงที่จะได้เข้ามาเป็นรองนายกฯควบ รมว.มหาดไทย รวมไปถึง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.คมนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่หากได้ตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ก็จะเข้ามาทำหน้าที่เอง แต่หากเป็นตำแหน่งอื่นอาจให้น้องสาว คือ นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ขึ้นชั้นมาเป็นรัฐมนตรีแทน ทั้งนี้การจัดวางบุคคลลงตำแหน่งต่างๆ ยังต้องรอการปรึกษาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ในขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตามในส่วนของ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เบื้องต้นได้ปฏิเสธเข้ามารับตำแหน่งในฝ่ายบริหาร เนื่องจากเป็นคนโลว์โปรไฟล์ และยังต้องการพักผ่อนหลังจากที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ
นอกจากความเคลื่อนไหวที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขณะนี้พำนักอยู่ที่เกาะฮ่องกงก็คึกคักไม่แพ้กัน โดยมีแกนนำพรรคเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณมากหน้าหลายตา อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวและแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงรัฐมนตรีที่มีชื่อหลุดจากตำแหน่งทั้ง นายปรีชา และ พล.ต.ท.ชัชจ์ ขณะที่ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีก็ยอมรับว่าจะเดินทางไปที่เกาะฮ่องกง
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4ต.ค.ที่ ผ่านแล้วเช่นกัน โดยเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมต้องการไปเจรจาขอควบตำแหน่ง รมว.มหาดไทยแทนนายยงยุทธ แต่ถือว่ามีโอกาสน้อย เพราะคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องการให้ ร.ต.อ.เฉลิม มีบทบาทในรัฐบาลมากกว่านี้ เนื่องจากไม่ไว้ใจในหลายๆกรณีที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วหากจำเป็นคุณหญิงพจมานก็จะเป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ พี่ชายตนเอง มานั่งรองนายกฯควบ รมว.มหาดไทย เพื่อคานอำนาจ ร.ต.อ.เฉลิมในรัฐบาล รวมไปถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ว่างลงในตอนนี้ ซึ่งทาง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีความสนใจมากกว่าตำแหน่งในฝ่ายบริหาร