รอ สพรั่ง สางปม5.6แสนเลขหมาย อุปกรณ์ใช้งานไม่ได้

อีกหนึ่งโครงการหมกเม็ดที่รอ พล.อ.สพรั่ง ประธานบอร์ด ทีโอที คนใหม่เข้ามาสาง เพราะยังใช้งานไม่ได้ ส่งมอบไม่ทันทั้งหมดตามกรอบ 19 สิงหาคม 2549 ขณะที่ทีมบริหาร ทีโอที ลุยปรับแล้ววันละ 1 ล้านบาท เหตุอุปกรณ์จากหัวเหว่ยมีปัญหา

ขณะนี้โครงการขยายโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย ที่จะต้องดำเนินการส่งมอบแล้วเสร็จตั้งแต่เดือน สิงหาคม ในปี 2549 แต่ในขณะนี้การดำเนินการทางเทคนิคยังไม่เรียบร้อย ถึงแม้จะติดตั้งชุมสายได้แล้วเสร็จก็ตาม โดยมี 2 พื้นที่ ที่ประสบปัญหา คือ

1.โซนภาคกลางและภาคใต้

2.โซนภาคตะวันออก และภาคเหนือ จึงส่งผลให้การส่งมอบงานไม่ได้เป็นไปตามระยะเวลากำหนดและไม่สามารถใช้งานได้จริง

โซนที่อีริคสันรับผิดชอบอยู่ ซึ่ง เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้ ขณะนี้ยังไม่สามารถขาย บริการ กับลูกค้าได้ โดยแผนที่วางไว้ คือ 90% จะเน้นขายบริการ ด้านเสียง หรือโทรพื้นฐานธรรมดา ส่วนอีก 10% จะเป็นบริการ ด้านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์)

เหมือนกับถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย ทำให้บอร์ดเข้าใจว่า โครงการไม่มีปัญหา ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่คืบหน้าอะไรเลย

สำหรับโครงการขยายโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย

บริษัท ทีโอที ได้จัดประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออกชั่นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2548 โดยมีมูลค่า 5.79 พันล้านบาท จากราคากลางเริ่มต้น 6.5 พันล้านบาท ซึ่งได้ผู้ชนะ 2 ราย คือ บริษัท ซีเมนส์ เป็นผู้ชนะโครงการใน

โซนที่ 1 คือ เขต กทม. และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่า 2.03 พันล้านบาท และกิจการร่วมค้า อีริคสัน ที่ร่วมมือกับ หัวเหว่ย เทคโนโลยี เป็นผู้ชนะ

ในโซนที่ 2 ภาคกลางและภาคใต้ ในราคา 1.89 พันล้านบาท และ

โซนที่ 3 ภาคตะวันออก และภาคเหนือ มูลค่า 1.86 พันล้านบาท

ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งมอบได้ทั้งหมดจริง ซึ่งตามสัญญาทั้งสองราย จะต้องส่งมอบชุมสายทั้งหมด ภายในวันที่ 19 สิงหาคม 2549 ซึ่ง โดย ทีโอที ได้ดำเนินการปรับตามสัญญาที่ระบุ ประมาณวันละกว่า 1 ล้านบาท ยกเว้น ทางภาคใต้ที่อยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ และไม่สามารถเข้าไปติดตั้งได้ถือเป็นกรณีพิเศษตามสัญญานั้น

ทั้งนี้ ได้รับมอบชุมสายที่ติดตั้งเสร็จไปแล้วหลายพื้นที่ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ ภาคใต้ ซึ่งในส่วนที่ส่งมอบก็ได้เปิดให้บริการ กับลูกค้าไปแล้ว ด้วยเช่นกัน

กรณีพื้นที่ที่เกิดปัญหาเป็น โซนที่ หัวเหว่ยรับผิดชอบนั้น ไม่เกี่ยวข้อง กับทีโอทีแต่อย่างใด เพราะโครงการนี้เป็นการทำสัญญาระหว่างทีโอที กับกิจการร่วมค้า ซีเมนส์ และ ทีโอที กับ กิจการร่วมค้า อีริคสัน ซึ่ง ใช้อุปกรณ์ของหัวเหว่ยอีกที ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นปัญหา ระหว่างอีริคสัน กับหัวเหว่ย แต่ทีโอทียังคงได้รับค่าปรับเท่าเดิม

ที่มี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการ ทหารบกเป็นประธาน ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่บอร์ดชุดนี้จะต้องพิจารณาด้วย และสาเหตุที่โครงการยังไม่สามารถส่งมอบได้ทันตามกำหนดเกิดจาก ในช่วงที่ผ่านมา ทีโอที ขาดผู้บริหารเข้ามารับผิดชอบ และมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ด จึงทำให้การติดตามประเมินของฝ่ายบริหารได้ขาดช่วงไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์