สนธิ ตอบโต้ ทักษิณ ยิ่งจ้อยิ่งเข้าเนื้อ

ยังคงเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลและ คมช. อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่ารัฐบาลไทยชุดปัจจุบันชอบอ้างนโยบายสมานฉันท์

แต่ความจริงเป็นการเข้ามาคอรัปชันมากกว่า แถมทั้งยังคุยโอ่ว่ามีซินแสที่ฮ่องกงทักว่าอีก 2 ปี จะได้กลับมาเป็นใหญ่นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.พ. ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์โจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คมช.ว่า

สิ่งที่มันกำลังเกิดขึ้น ทำให้สังคมไทยมีความสมานฉันท์มากขึ้น เพราะรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งต่างๆ คิดว่าอะไรต่างๆย่อมจะดีขึ้น ทั้งนี้ คิดว่าให้ประชาชนใช้ วิจารณญาณในการอ่าน ฟังและวิเคราะห์เองดีกว่า เมื่อออกมาหลายครั้งจะรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด เมื่อถามว่าการออกไปพูดในต่างประเทศของอดีตนายกฯทักษิณ ทำให้คมช.และรัฐบาลมีปัญหา จนทำให้การทำงานล่าช้า

พล.อ. สนธิตอบว่า ไม่เลย คิดว่าดีขึ้นและเร็วขึ้น เพราะประชาชนเข้าใจเรามากขึ้น และให้ความร่วมมือมากขึ้น เมื่อถามว่า คมช.จะมีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างไร เพื่อไม่ให้อดีตนายกฯทักษิณสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ พล.อ.สนธิตอบว่า เราคงไม่ยุ่งและคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ยุ่ง

พล.อ.สนธิกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มการเมืองใหม่เป็นนอมินีของ คมช.ว่า ดูแล้วยังไกลไป เมื่อถามว่า กรณีที่มีกระแสเรียกร้องจากพรรคการเมืองให้มีการประกาศยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมือง พล.อ.สนธิตอบว่า

ขณะนี้เราอนุญาตให้ทุกพรรคการเมืองประสานมา หากมีความประสงค์จะดำเนินกรรมวิธีที่เกี่ยวข้องกับพรรค การเมือง เราก็จะอนุญาตให้ทั้งหมด เมื่อถามว่า สาเหตุใดที่ทาง คมช.ยังไม่ต้องการให้มีการประกาศยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27

พล.อ.สนธิตอบว่า เรื่องนี้คงต้องคุยกันในปัญหาที่กว้างไกลกว่าปกติ เมื่อถามว่า เป็นเพราะเกรงว่าจะกระทบกับการร่างรัฐธรรมนูญและทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า มันก็มีส่วน เพราะการร่างรัฐธรรมนูญมีหลายขั้นตอน

พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกลาโหม ในฐานะเลขาธิการ คมช.กล่าวถึงกรณีที่มีคนมองว่าการที่ ส.ส.พรรคไทยรักไทยออกมาตั้งพรรคการเมือง เพื่อสืบทอดอำนาจ คมช.ว่า เรื่องการสืบทอดอำนาจคงไม่มีแนวคิดเช่นนั้น เรื่องของการพัฒนาทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลง คิดว่าเป็นห้วงจังหวะเวลาของการเมือง

ซึ่งนักการเมืองทุกท่าน รู้จังหวะเวลาของท่านดี และรู้ถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นรอบๆตัว เพียงพอที่จะตัดสินใจว่าเวลาไหนควรจะทำอะไร

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า คมช.จะไม่ เป็นนอมินีของพรรคการเมืองต่างๆ พล.อ.วินัยตอบว่า คงไม่มีในขณะนี้ ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มี และไม่ได้ตั้งใจจะเอาใครเป็นนอมินี หรือเป็นนอมินีของใคร ต่อข้อถามว่า มีนายทหารที่เกษียณแล้วอาจจะลงไปเล่นการเมือง ทาง คมช.มีการติดตามหรือไม่ว่าจะไปเล่นการเมืองในส่วนของทหาร

พล.อ.วินัยตอบว่า คงไม่มีพรรคทหาร พรรคทหารเห็นเกิดขึ้นมาทีไรก็อยู่ไม่ได้ยาว คิดว่าคงไม่มี อย่างไรก็ตาม ข้าราชการไม่ว่าเฉพาะทหารหรือข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งข้าราชการฝ่ายปกครอง พลเรือนหรือข้าราชการทหาร ใครที่คิดว่าสามารถจะทำประโยชน์ ให้ประเทศชาติได้ เมื่อเกษียณแล้วถือเป็นสิทธิของเขาที่จะลงไปสู่แนวทางทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่ารัฐบาลและ คมช.อ้างนโยบายสมานฉันท์ แต่ขณะนี้กลับฉันจนเละ คมช.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.วินัยตอบว่า ประธาน คมช.ตอบชัดเจนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ติดตามดูยังไม่เห็นมีอะไร ไม่น่ามีมูลความจริง เรื่องนี้ประธาน คมช.ตอบชัดเจนแล้ว เมื่อถามว่า คมช.จะมีการตรวจสอบและระมัดระวังเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.วินัยตอบว่า แน่นอน เพราะว่าเห็นตัวอย่างอยู่ ถ้าทำอะไรแล้วมันเกิดขึ้นผลที่ติดตามมาก็ต้องดูกัน

เมื่อถามต่อไปว่า หนักใจหรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้การทำงานของ คมช.บ่อยครั้ง คมช.จะมีมาตรการอย่างไร พล.อ.วินัยตอบว่า ก็ไม่หนักใจอะไร เป็นเรื่องที่ทาง พ.ต.ท.ทักษิณจะทำอย่างนั้น เมื่อถามว่า จะมีการขอร้อง พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ว่าอย่าไปพูดนอกประเทศเพราะจะทำให้ประเทศเสียหาย พล.อ.วินัยกล่าวว่า เห็นสื่อขอร้องเยอะแยะอยู่แล้ว

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ที่ประเทศออสเตรเลียว่า รัฐบาลชุดนี้อ้างว่าเข้ามาทำงานด้วยความสมานฉันท์

แต่แท้ที่จริงแล้ว แบ่งกันฉัน แบ่งกันกินว่า อดีตนายกฯพูดจาโกหก เป็นการพูดเพื่อต้องการให้เกิดความเสียหาย ทำให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของรัฐบาลเดิม ที่ต้องการปั่นป่วนให้ประชาชนเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี ต่อรัฐบาล

วันเดียวกันนี้ ที่ร้านโอลด์เล้ง อาร์ซีเอ กลุ่มรักความจริงและความโปร่งใส ประกอบด้วย

ม.ร.ว.รำพิอาภา เกษมศรี ประธานกลุ่มฯ
นางสุมาลี วีระไวทยะ
นางปราไพ ปราสาททองโอสถ และ
นางเบญจวรรณ กระจ่างเนตร์

ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้ คมช.และรัฐบาล ดำเนินการเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

พร้อมกับเร่งให้รัฐบาลแสดงผลงานให้ เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน โดยนางปราไพกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. เป็นต้นมา ประชาชนมีความสุขมีความหวังใน คมช.และรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

แต่ผ่านไป 5 เดือน พวกเราเกิดความไม่มั่นใจว่า คมช.และรัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ เชื่องช้าและหน่อมแน้มเหลือเกิน การสอบสวนทุจริตต่างๆยังคลุมเครือ ควรจะฟันธงไปเลยว่าใครผิดถูกอย่างไร เช่น กรณีสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น

นางปราไพกล่าวว่า อยากจะเห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมที่เป็นความจริง ออกมาให้ประชาชนได้เห็น ตลอด 5 เดือน โรงเรียนยังถูกเผาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่เกิดความสงบ

แม้กระทั่งระเบิดในวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา จับคนร้ายไม่ได้ ข้าราชการเกิดความแตกแยก ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลานี้ พ.ต.ท. ทักษิณยังคงลอยนวลอยู่ในต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ที่ทำลายภาพพจน์ของประเทศ แสดงถึงความไม่รักชาติ ไม่มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ขอร้องว่าอย่าอาจเอื้อมหมิ่นสถาบันเลย คมช.ควรจัดการเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม อย่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณเที่ยวพูดไปอย่างนี้

ม.ร.ว.รำพิอาภากล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้ สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติ เขามีสิทธิ์ทำอย่างนั้น แต่ทางเรายังไม่มีข้อกล่าวหาอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะฉะนั้นเขาจึงพูดได้ว่าไม่มีความผิดอะไร จะกลับมาเมืองไทยเมื่อใดก็ได้

รัฐบาลควรหาข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณให้ได้ 5 เดือนหลังการยึดอำนาจแล้วยังไม่มีข้อกล่าวหาอะไรเลย อยากให้รัฐบาลและ คมช.นำความไม่ถูกต้องของ พ.ต.ท. ทักษิณ ออกมาให้เป็นรูปธรรมเร็วๆ ต่างชาติจะได้รู้เสียที นอกจากนี้ ควรนำข้อมูลต่างๆเผยแพร่ให้คนต่างจังหวัดได้ทราบ เพื่อลดกระแสคลื่นใต้น้ำ

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ