รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการมอบนโยบายให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)คนใหม่
ที่เดินทางมาเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ว่า เป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ซึ่งเป็นนโยบายที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย และยังเป็นนโยบายที่พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ อดีตผบ.ตร.ได้ดำเนินการไว้ ซึ่งก็ถือว่าได้ทำงานมาเป็นอย่างดี ส่วนพล.ต.อ.อดุลย์คงทำงานต่อและก่องานใหม่ ทั้งนี้พล.ต.อ.อดุลย์เป็นนายตำรวจที่อยู่พื้นที่ภาคใต้มานาน เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตั้งแต่ยังไม่มีศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)และดูแลพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ครั้งเมื่อเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.ก็ยังลงไปดูแลพื้นที่ภาคใต้ถือว่า ผบ.ตร.มีความถนัด และมีความเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีขึ้นหรือไม่ เมื่อมีคนทำงานที่รู้เรื่องดีเข้าไปดูแล
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาภาคใต้แก้ยากต้องพยายามแก้กันไป ขณะที่ว่าเอาพรรคประชาธิปัตย์มานั่งพูดกัน 3-4 ชั่วโมง ก็ยังเกิดเหตุการณ์ระเบิด และภายในปลายเดือนต.ค.นี้จะเชิญนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์และส.ส.ทุกพรรค รวมถึงพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เข้าร่วมประชุมที่ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ด้วย เมื่อถามว่า การดำเนินงานในขณะนี้ยังไม่ถูกทางหรือไม่ ทำให้เหตุการณ์ไม่ดีขึ้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนมีความรู้น้อยจริงๆ ถ้าแสดงความเห็นก็จะเกิดความผิดพลาดได้ ส่วนวาระที่จะต้องหารือเพิ่มเติมคงจะต้องถามไปยังผู้เข้าร่วมประชุมจะเอาอย่างไรดี ช่วยกันอย่างไรเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ขณะนี้สถานการณ์ยังเกิดเหตุระเบิดไม่เลิก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการให้ผู้ก่อความไม่สงบเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 กำลังตรวจสอบ ซึ่งจะต้องใช้พรบ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพราะถ้าใช้ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะเกิดความขัดแย้ง ส่วนข้อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวของผู้ที่ถูกดำเนินคดีอาญาอยู่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จริงๆ แล้วได้รับรายงานมาเยอะกว่านี้ ซึ่งส่วนตัวก็ได้ข้อมูลมาฉบับหนึ่ง เเละได้ส่งให้พล.ต.อ.อดุลย์ไปดูแล้วว่า เป็นความจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็หนีการเมืองไม่พ้น และข้อมูลที่ได้มามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กำลังตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ เรื่องแบบนี้เราจะต้องรับฟัง เพราะเรามีหน้าที่จะไม่รับฟังเลยก็ไม่ได้ หรือถ้ารับฟังแล้วเชื่อเลยก็ไม่ได้ ต้องทำการตรวจสอบ