เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลาออกจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า เมื่อนายยงยุทธลาออกแล้ว สามารถตั้งผู้รักษาการได้ ยังไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนงานรองนายกฯ ก็กระจายไปยังรองนายกฯต่างๆ การทำหน้าที่รักษาการนั้น ตามระเบียบไม่ได้มีระยะเวลากำหนดแต่อย่างใด ไม่ได้เสียหาย สามารถทำได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสกดดันให้มีการปรับ ครม. นายชุมพลกล่าวว่า
เรื่องนั้นตนไม่ทราบ ต้องรอนายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนาทุกคนทำงานได้ดีอยู่แล้ว แล้วแต่นายกรัฐมนตรีจะส่งสัญญาณมา หากส่งมาก็จะได้นำไปหารือกันในพรรค
เมื่อถามว่า ต้องรอถามที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่ นายชุมพลยิ้มก่อนกล่าวว่า "ต้องรอสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี"
เมื่อถามว่า ช่วงเวลาที่สมควรปรับ ครม.ควรจะเป็นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัติหรือไม่
นายชุมพลกล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์ และอยู่ที่ฝ่ายค้านว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ หากยื่นญัตติสัปดาห์หน้า ก็ต้องปรับหลังจากนั้น เพราะการปรับคงไม่สำเร็จภายในสัปดาห์เดียว ซึ่งอาจก่อนหรือหลังก็ได้ แล้วแต่ฝ่ายค้านจะยื่น
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเองก็ยังตามขย่ม จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า
ครม.ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับรัฐบาล ส่วนข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาวิจารณ์ก็เป็นเรื่องฝ่ายค้าน เราก็รับฟังไว้ เมื่อถามว่า ยังมีแรงกดดันจากฝ่ายต่างๆ ที่ออกมากระทุ้งให้ปรับ ครม. นายชุมพลกล่าวว่า แล้วแต่นายกรัฐมนตรี แต่ระบบการรักษาการไม่ได้กระทบกระเทือนใดๆ