เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1504/2553
ซึ่งพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ฟ้อง นายตู่ และ นายเต้น (นามสมมุติ ) 2 เยาวชน เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ ฝ่าฝืนพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 บริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (CTW) ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
โดย นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ เปิดเผยภายหลังว่า ศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ซึ่งความผิดดังกล่าวให้ระวางโทษจำคุก 3 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองยังเป็นเยาวชนและไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน โทษดังกล่าวจึงให้รอการกำหนดโทษไว้ 1 ปี โดยให้จำเลยทั้งสองรายงานตัวไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง พร้อมคุมประพฤติ และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 72 ชั่วโมง
ส่วนความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ และขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ ศาลยกฟ้อง
เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด เพราะของกลางไม่ได้อยู่ที่ตัวของจำเลย และไม่มีพยานยืนยันว่าจำเลยได้ทำลายสิ่งของและต่อสู้ขัดขวางพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคำพิพากษาในข้อหาหลักถือเป็นประโยชน์ต่อจำเลย แต่ในส่วนข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทางจำเลยไม่ติดใจจะอุทธรณ์ เพราะเป็นกรณีเล็กน้อย ซึ่งศาลเห็นว่าการชุมนุมถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่เมื่อรัฐบาลได้ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาแล้วยังฝ่าฝืนก็มีความผิด