ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง 6 แกนนำพมธ. ออกแถลงการณ์หมิ่น"ทักษิณ" ชี้ ติชมโดยสุจริต
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.1923/2551 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดย นายวินิจ ปิณฑวนิช ผู้รับมอบอำนาจ ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
โจทก์ฟ้องระบุความผิดพวกจำเลยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.51 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1-6 ได้ร่วมกันโฆษณาด้วยเอกสารและคำแถลงการณ์
โดยให้จำเลยที่ 6 เป็นผู้อ่านเอกสาร และจำเลยที่ 7 เป็นผู้ดำเนินการถ่ายทอดออกอากาศโฆษณาแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ช่องข่าวนิวส์วันที่มีการเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบ การที่จำเลยที่ 1-6 ร่วมกันใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม โดยมีจำเลยที่ 7 เป็นผู้สนับสนุน ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังจากประชาชนที่ได้รับทราบข้อความดังกล่าว เหตุเกิดที่ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และทุกแขวง/ตำบล/อำเภอ และจังหวัด ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน ขอให้ลงโทษ จำเลยที่ 1-6 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,90,91,83 และขอให้ลงโทษจำเลยที่ 7 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,90,91,86 คดีนี้ศาลชั้นต้นยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับคำฟ้อง
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและปรึกษากันแล้วเห็นว่า ข้อความแถลงของจำเลยเป็นไปในทำนองตำหนิ
ชี้ให้เห็นความบกพร่องในการบริหารงานที่โจทก์เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่าเป็นไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่โปร่งใส แม้มีถ้อยคำหรือข้อความที่รุนแรงแต่ไม่หยาบคาย ส่วนใหญ่จะเป็นการวิพากษ์ทางการเมือง ไม่ถือเป็นข้อความใส่ความโจทก์ และข้อเท็จจริงที่กล่าวพาดพิงโจทก์ในแถลงการณ์ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง การที่จำเลยที่ 1-6 ในฐานะประชาชน แม้จะประกาศตัวเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ย่อมมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์หรือติชมโจทก์ในฐานะผู้บริหารประเทศ อีกทั้งเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต รักษาผลประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชนส่วนร่วม เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนและป้องกันส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องตามคลองธรรม เป็นการติชมโดยสุจริตและเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนที่ทำได้ ตามกฎหมายอาญามาตรา 329(1) (3) จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่โจทก์อุทธรณ์ไม่มีมูล พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น.