ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัยว่าเข้าสู่วิกฤตแล้ว หลังจากตลอดคืนที่ผ่านมา
หลายหน่วยงานได้ขนบิ๊กแบ๊กน้ำหนักเกือบ 2 ตัน เข้าไปอุดกั้นบริเวณจุดที่น้ำยมทะลัก แต่มวลน้ำที่มีแรงปะทะมหาศาล ได้พัดเอาบิ๊กแบ๊กลอยปลิวไปกับกระแสน้ำตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยุติการวางกระสอบทรายยักษ์ช่วงเวลา 04.00 น. วันที่ 11 กันยายน
นายนพพร ภู่เจริญ รองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี
เปิดเผยว่า การวางบิ๊กแบ๊กสกัดน้ำยมทำไปได้เพียง 50% ต้องหยุดดำเนินการต่อ เพราะกระแสน้ำแรงมาก รวมทั้งรถบรรทุก 6 ล้อของเทศบาลที่ขนบิ๊กแบ๊กเข้าไปก็ถูกน้ำท่วมพัง 3 คัน ต้องวางแผนหาวิธีการป้องกันใหม่ อาจต้องสร้างแนวป้องกันน้ำในรัศมี 120 เมตร จากจุดที่พัง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขยายวงกว้าง
แต่ปัญหาคือบ้านเรือน ร้านค้า อาคารพาณิชย์ รวมกว่า 100 หลังคาเรือนภายในเขตแนวป้องกันต้องถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และจะต้องมีการจ่ายชดเชยความเสียหายเป็นเงินจำนวนมากด้วย หลายหน่วยงานกำลังเร่งสรุปหาทางแก้วิกฤตต่อไปแล้ว
สำหรับผลกระทบล่าสุด พบมีประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี
เดือดร้อนแล้วกว่า 4,000 ครอบครัว หรือกว่า 12,000 คน และมีการเตรียมศูนย์อพยพผู้ประสบภัยไว้ที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย กรณีฉุกเฉินแล้ว ส่วนความเสียหายทั้งหมดคาดเป็นเงินถึง 1,000 ล้านบาทแล้ว