นัดลงมติ18 ก.ย.นี้ถอดถอน“สุเทพ”
ในการประชุมวุฒิสภาวันนี้ (7ก.ย.) ได้พิจารณาสำนวนคดีถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. แถลงเปิดสำนวนว่า จากการไต่สวนของป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าการแก้ข้อกล่าว 10 ประเด็น ของนายสุเทพฟังไม่ขึ้น จึงมีมติ 8 ต่อ 1 ว่านายสุเทพกระทำผิดส่อจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ การวินิจฉัยคดีดังกล่าวไม่ได้มีอคติ ไม่มีฝ่าย ไม่มีสี และพิจารณาความผิดความถูกไปตามพยานหลักฐาน ไม่อยู่ใต้การกดดันใดๆ
ส่วนกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหายกคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 17/2555 ยกคำร้องกรณีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ออกคำสั่งให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปช่วยงานในศปภ. โดยในข้อสังเกตตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าเมื่อเกิดความจริงว่าจะเกิดมหาอุทกภัยที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ในสภาวะวิกฤตดังกล่าวไม่เพียงแต่ฝ่ายบริหารเท่านั้นที่จะต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แต่ยังเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ส.ส.ในฐานะปวงชนชาวไทยจึงมิอาจหลีกเลี่ยงในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาวิกฤติมหาอุทกภัยดังกล่าวได้ เห็นว่าไม่ผิด แต่กรณีการส่งส.ส.ไปช่วยงานกระทรวงวัฒนธรรม ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่เกี่ยวกัน
ด้านนาย"สุเทพ"แถลงคำคัดค้านว่า เป็นสามัญสำนึกของคนที่ปฏิบัติหน้าที่ทางการเมือง เข้าใจความรู้สึกของสมาชิกรัฐสภา ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ที่อยากทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ตนลงนามในหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรมจริง แต่ไม่ใช่หนังสือส่งคน เป็นการแจ้งความประสงค์ของส.ส. ที่อาสาจะไปช่วยงานในกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อมีคนทักท้วงว่าขัดต่อกฎหมาย ตนไม่ได้ดื้อและขอรับหนังสือคืน โดยที่รมว.วัฒธรรมไม่ได้เปิดอ่าน ไม่ได้สั่งการใดๆตามหนังสือดังกล่าว ไม่มีส.ส.ไปทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรมแม้แต่คนเดียว และกรณีนี้กกต.ได้วินิจฉัยยกคำร้องแล้ว ตามที่ป.ป.ช มีมติว่าสิ่งที่ตนดำเนินการไปถือว่าก้าวก่ายแทรกแซง และเป็นความผิดสำเร็จแล้ว แต่หลักกฎหมายทั่วไปต้องยึดความเที่ยงธรรม ยุติธรรมเป็นหลัก หากตนทราบว่าผิดกฎหมายก็จะไม่ฝ่าฝืน ที่ป.ป.ช.ระบุว่าตนมีเจตนาพิเศษเพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส. และเรื่องฐานคะแนนเสียงนั้น เป็นการแปลเจตนาตนคลาดเคลื่อน ไม่มีเจตนาพิเศษ ไม่มีเถยยจิต(เถ-ยะ-จิต)จิตเป็นโจร ไม่คิดร้าย