ดีเอสไอเหวี่ยงแห เรียก ประสพสุข ให้การสลายแดง

วันที่ 6 กันยายน พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชน  91 ศพ

ให้สัมภาษณ์ภายหลังสอบปากคำ พล.อ.เลิศรัตน์  รัตนวานิช ส.ว.ที่เคยเจรจากับแกนนำ นปช.เพื่อให้ยุติการชุมนุม เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2553 ว่า บุคคลที่ต้องเชิญตัวเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป คือ นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภา เนื่องจาก พล.อ.เลิศรัตน์ ให้การว่า หลังจากที่วุฒิสภาได้หารือหาทางออกเหตุการณ์บ้านเมืองโดยจะไปเจรจากับแกนนำ นปช. เพื่อให้ยุติการชุมนุม ก็ได้แจ้งข้อสรุปดังกล่าวให้นายประสพสุข ประธานวุฒิสภา รับทราบ เพื่อแจ้งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ทราบ 

ต่อข้อถาม กรณีที่ต้องเรียก นายปณิธาน วัฒนายากร และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด มาให้ปากคำ

พ.ต.องประเวศน์ กล่าวว่า จะสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแถลงการณ์ของ ศอฉ. ว่า เป็นอย่างไร เนื่องจากบางครั้งที่ทำหน้าที่แถลงข่าวในนาม ศอฉ. มีเนื้อหาที่ไม่ตรงหรือไม่สอดคล้องกับภาพที่ปรากฏ เป็นเพราะอะไร ที่ผ่านมายังไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานใครถูกชายชุดดำยิงบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอีก มีเพียงคลิปภาพแค่ที่ ถนนราชดำเนิน และบ่อนไก่เท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่มีชายชุดดำปรากฏอีก จึงพยายามหาหลักฐานว่า ชายชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่และทำร้ายเจ้าหน้าที่เป็นใคร หากใครมีหลักฐานดังกล่าวขอให้ส่งให้ด้วย

เมื่อถามว่า ทำไมจึงระบุว่าแถลงข่าวไม่สอดคล้องกับภาพคลิปที่ปรากฏ พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า

ในภาพคลิปที่ผู้ถือปืนติดกล้องยิงที่บ่อนไก่ ผู้ทำหน้าที่แถลงข่าวบอกว่าผู้ยิงที่ปรากฏในภาพได้ยิงปืนแล้วล้มลงแต่พยายามลุกและขว้างระเบิดอีกครั้ง ขณะที่พลซุ่มยิง 2 คน ที่มาให้การก่อนหน้านี้ บอกว่าเป็นการยิงปืนไม่มีหัวกระสุน ซึ่งเรื่องชายชุดดำนี้ทราบมาว่า นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำนปช.จะนำหลักฐานเกี่ยวกับชายชุดดำให้ดีเอสไอ ดังนั้น คงไม่ต้องเรียกพลซุ่มยิง 2 คนมาสอบเพิ่มอีก แต่หากการสอบสวนพาดพิงไปถึงใครก็จะเรียกตัวมาสอบเพิ่มเติมต่อไป ส่วนผลการสอบสวนคดีของดีเอสไอ

ขณะนี้เกินกว่าครึ่งแล้วเพราะได้มีการเก็บและรวบรวมภาพคลิปเหตุการณ์ต่างๆเรียงเป็นขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว

รวมในส่วนผู้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยแต่ชุดสอบสวนจะรอการไต่สวนจากศาลยกมาประกอบกับการพิจารณาคดีด้วย  เมื่อถามย้ำว่า คดีจะเสร็จภายใน 2เดือนหรือไม่ เพราะรมว.ยุติธรรม ระบุว่าพ.ต.อ.ประเวศน์ เป็นผู้ที่เหมาะสมทำหน้าที่เลขาธิการ ป.ป.ท. พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า กำหนดเวลาไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับเมื่อได้หลักฐานสอดคล้องตรงกันและปราศจากข้อสงสัยแล้วจึงจะมีความเห็นทั้งคดี พร้อมกันนี้ ปฏิเสธว่า รมว.ยุติธรรม ยังไม่ได้มีคำสั่งเกี่ยวกับการให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเลขาธิการ ปปท.