นายกฯ ยืนยัน ไม่เคยเสนอชื่อ “กิตติรัตน์” ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.

พรรคเพื่อไทย 6 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีกล่าวปิดประชุมโครงการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรทางการเมือง

เพื่อวางยุทธศาสตร์ในการเอาชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำ ส.ก. ส.ข. ต้องลงพื้นที่รับทราบปัญหาประชาชน เพื่อนำมากำหนดนโยบายและแก้ปัญหาได้ตรงจุด ชี้หากทำได้ เก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เป็นของพรรคเพื่อไทยแน่นอน พร้อมปฏิเสธไม่เคยเสนอชื่อ “กิตติรัตน์” ลงชิงตำแหน่งนี้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวปิดการประชุมตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรทางการเมือง
 
เพื่อวางยุทธศาสตร์ในการเอาชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่พรรคเพื่อไทย โดยกล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของวิถีชีวิตและมีความแตกต่างของแต่ละพื้นที่สูง การกำหนดนโยบายจึงต้องให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้นโยบายเข้าไปอยู่ในใจของคนกรุงเทพฯได้

“ขอให้ผู้ประสานงานทางการเมืองของพรรคทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ลงพื้นที่รับทราบปัญหาของคนกรุงเทพฯในแต่ละพื้นที่ นำมารวบรวมสรุปกำหนดเป็นนโยบายของพรรค เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากไม่สามารถใช้นโยบายในภาพกว้าง จึงต้องกำหนดนโยบายให้ตรงและแก้ไขปัญหาของแต่ละพื้นที่ให้ได้ เพื่อให้ลงไปสู่คนกรุงเทพมหานคร และเชื่อว่าหากผู้ประสานงานทางการเมืองของพรรคทำงานสะท้อนปัญหาได้ดีจริงและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนกรุงเทพฯได้ ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็เป็นของพรรคเพื่อไทย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นได้มีผู้สอบถามว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มีความเหมาะสมที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้ที่ทำงานให้พรรค พรรคพร้อมเปิดกว้างให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านงานการเมืองในกรุงเทพมหานคร โดยพรรคจะพยายามคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเป็นประธานปิดการประชุมดังกล่าว
 
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงแข่งขันชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรีปฏิเสธว่าไม่เคยเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เรื่องนี้ขึ้นกับมติของคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครของพรรคที่จะพิจารณา.-สำนักข่าวไทย