ศาลยกคำร้องปล่อยชั่วคราว “เจ๋ง ดอกจิก” ชี้พฤติการณ์ไม่แสดงชัดว่าสำนึก-เข็ดหลาบต่อการกระทำผิด ด้านทนายเตรียมทำหนังสือสำนึกผิดถึงตุลาการ พร้อมยื่นประกันตัวใหม่เดือนต.ค.
ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.10 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลอ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก"
ผู้ช่วยเลขานุการรมช.มหาดไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และจำเลยที่ 7 ในคดีก่อการร้ายที่ถูกศาลสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวไว้ หลังจากที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความใช้เงินสด 6 แสนบาท ยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย มาเบิกความรับรองความประพฤติให้จำเลย เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้เบิกตัวนายยศวริศมาฟังคำสั่ง โดยมีนางกรุณา มอริส ภรรยาของนายยศวริศ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. และกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมาร่วมฟังคำสั่งและให้กำลังใจนายยศวริศด้วย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 7 เคยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาแล้ว
แต่จำเลยยังกระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขในการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลกำหนด และยังกระทำการในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น ศาลจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 7 เมื่อวันที่ 22 ส.ค.55 การที่จำเลยมายื่นคำร้องขออนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในครั้งนี้ โดยจำเลยที่ 7 เบิกความในชั้นไต่สวนว่าจำเลยมีความสำนึกผิดแล้ว หากได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวจากศาลอีกครั้งขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด จะทำหนังสือขอโทษต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 อีก และจะระมัดระวังการกระทำของตนเองมิให้เป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิด กระทบกระเทือนต่อชื่อเสียงเกียรติยศของบุคคลอื่น
ส่วนกรณีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
มาเบิกความรับรองความประพฤติของจำเลยที่ 7 นั้น พยานทั้งสองเพียงแต่ให้คำรับรองตามความเห็นของพยานเอง ส่วนคำมั่นที่จำเลยให้ไว้กับการบรรเทาผลร้ายที่จะกระทำต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 จำเลยเพียงแต่กล่าวอ้างขึ้น โดยยังไม่มีพฤติการณ์แสดงออกชัดว่าได้เริ่มดำเนินการไปแล้วบ้างหรือไม่ หรือหากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในครั้งนี้ จำเลยจะกระทำการตามที่แถลงไว้จริง จากเหตุผลที่วินิจฉัยมาดังกล่าวข้างต้นประกอบกับการสูญเสียอิสรภาพของจำเลยในเวลาอันสั้น ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ศาลเชื่อได้ว่าจำเลยรู้สำนึก มีความรู้สึกยับยั้งชั่งใจในการคิดใคร่ควรว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ มีความรู้สึกเข็ดหลาบและหลาบจำต่อการกระทำความผิดของตน หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปจะไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและจะไม่กระทำการใดๆ อันอาจก่อให้เกิดภยันตรายประการอื่นอีก จึงเห็นสมควรให้ยกคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 และคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกัน
ด้านนายวิญญัติ กล่าวภายหลังว่า หลังจากนี้จะทำหนังสือแสดงความสำนึกผิดส่งถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า
เพื่อแสดงให้ศาลอาญาให้เห็นว่าเราได้รู้สึกสำนึกผิดและได้มีการปฏิบัติอย่างชัดเจนตามคำสั่ง โดยเนื้อหาของหนังสือที่จะส่งถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ให้เห็นว่าเราไม่มีเจตนาจะทำร้ายบุคคลใด ที่ทำไปเพราะขาดความยับยั้งชั่งคิด ส่วนที่มีความจำเลยถึงขั้นต้องให้มีหนังสือรับรองจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เห็นว่าไม่ต้องถึงขั้นนั้น เพราะเมื่อเราตั้งใจทำหนังสือแสดงความสำนึกก็จะปรากฏต่อสาธารณชนอยู่แล้ว ขณะที่การพิจารณายื่นขอประกันตัวใหม่น่าจะไม่เกินเดือนต.ค.นี้ ซึ่งหลักทรัพย์อาจจะใช้จำนวนเดิม เพราะคำสั่งศาลวันนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่องหลักทรัพย์ว่าน้อยไป รวมทั้งไม่ได้พูดถึงข้อกฎหมายอื่นที่จะไม่ให้ยื่นประกันอีก.