เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนจากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 รวม 98 ศพ กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับพนักงานอัยการและตำรวจชุดใหม่ ที่ร่วมสอบสวนคดีได้กำหนดแนวทางการทำงานร่วมกัน โดยจะนำสำนวนการสอบสวนคดีทั้งหมดมาร่วมกันพิจารณา หลายคดีพบว่า พยานหลักฐานมีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณบ่อนไก่ เนื่องจากมีพยานได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เข้าให้ปากคำและร้องทุกข์กล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ฐานพยายามฆ่า โดยพยานทั้ง 2 คน ระบุว่า เห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐใช้ปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ดีเอสไอจะพิจารณาภาพรวมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่า มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรบ้าง และมีผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาร่วมกับสำนวนการสอบสวนของตำรวจ
พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าวต่อว่า ดีเอสไอจะเรียกสอบปากคำตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทหารในช่วงเหตุรุนแรง
ส่วนหนึ่งเป็นตำรวจที่มาจากต่างจังหวัด เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยสอบปากคำตำรวจกลุ่มนี้ ส่วนกรณีที่ระบุว่า มีมือที่สามหรือชายชุดดำ หรือผู้ก่อการร้าย เข้ามาเกี่ยวข้องในช่วงเหตุจลาจลนั้น จะเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่ามีอยู่จริงหรือไม่ โดยในสัปดาห์หน้าจะเริ่มพิจารณาว่าจะเรียกบุคคลใดเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง
(ที่มา:มติชนรายวัน 10 สิงหาคม 2555)