กิตติพงษ์ เชื่อ เสรีพิศุทธ์ จะสนับสนุนปรับโครงสร้างตำรวจ

เข้าใจองค์กรตำรวจเป็นอย่างดี และเห็นความจำเป็นและสนับสนุนการปรับโครงสร้างตำรวจให้ดีขึ้น ย้ำเป้าหมายของโครงสร้าง คือการเพิ่มศักดิ์ศรีให้ตำรวจในกระบวนการยุติธรรม และไม่ให้การเมืองแทรกแซงเป็นเครื่องมือได้

ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ กล่าวถึงกรณีคำสั่งให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับการปรับโครงสร้างตำรวจ โดยเชื่อว่าจะไม่มีผลในเชิงลบต่อการปรับเปลี่ยนระบบงานตำรวจ

เพราะคณะกรรมการและอนุกรรมการทุกชุดในการพัฒนาโครงสร้างใหม่ของตำรวจมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมอยู่ด้วยทั้งนั้น รวมทั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจคงจะได้มีโอกาสหารือทำความเข้าใจกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถึงรูปแบบโครงสร้างใหม่ ดังนั้น การเปลี่ยน ผบ.ตร.คงไม่เกี่ยวกับการทำงานปรับโครงสร้างตำรวจ

งานตำรวจและเข้าใจองค์กรตำรวจดีมาก โดยตำแหน่ง รก.ผบ.ตร.ก็สามารถเข้ามาร่วมเป็นกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจอยู่แล้ว สำหรับเรื่องสายบังคับบัญชา ซึ่งนโยบายของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องเครื่องแบบ เรื่องชั้นบังคับบัญชาตำรวจ ทั่วโลกก็มี ซึ่งโครงสร้างที่กำลังพัฒนาก็ยังคงมี เพียงแต่คณะกรรมการฯ พิจารณาเรื่องยศที่อยากให้ลดลง นายกิตติพงษ์ กล่าว

คณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจมีกรอบในการทำงานชัดเจนอยู่แล้ว และจะแล้วเสร็จพร้อมนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการร่างกฎหมายในเดือนมีนาคมนี้ การพัฒนาโครงสร้างตำรวจจึงเป็นคนละเรื่องกับการเมือง จึงเชื่อว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะเห็นความจำเป็นและสนับสนุนการปรับโครงสร้างตำรวจให้ดีขึ้น

แสดงว่าตำแหน่งนี้สำคัญมาก ดังนั้น ฝ่ายการเมืองก็ต้องให้ความสำคัญมากกับตำแหน่งนี้ จึงไม่ใช่เรื่องวิชาชีพธรรมดาของกระบวนการยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กล่าว และว่าเป้าหมายของโครงสร้างใหม่ตำรวจไทย คือ การเพิ่มศักดิ์ศรีให้ตำรวจในกระบวนการยุติธรรม และไม่ให้การเมืองแทรกแซงเป็นเครื่องมือได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์