วันนี้ ( 9 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางBlue Sky Channel
ถึงกรณที่ทางสหรัฐอเมริกาจะส่งเจ้าหน้าที่มาพบปลัดกระทรวงพาณิชย์ของไทย ขอตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวระบุไทยการส่งออกข้าวบิดเบือนกลไกการค้าโลก ว่า ได้เคยเตือนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่วันอภิปรายนโยบาย เพราะการแทรกแซงราคาและการค้า มีกติกาที่ทางองค์การการค้าโลกกำหนดอยู่ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่รัฐบาลชุดที่แล้วใช้นโยบายประกันรายได้ เพราะนโยบายประกันรายได้ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการค้า เป็นเรื่องของการที่เราช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องรายได้แต่รัฐบาลอาจใช้ข้อต่อสู้ว่า ไม่ได้เป็นการซื้อแต่เป็นการจำนำข้าว ส่วนกรณีที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตั้งข้อสงสัยว่า สหรัฐฯ มีอำนาจอะไรในการตรวจสอบนโยบายของไทย ตนไม่ได้มองว่าสหรัฐฯ จะมาตรวจสอบไม่ตรวจสอบ แต่ว่าทางประเทศไทยก็ต้องเตรียมการเอาไว้ในกรณีที่เกิดมีใครมองว่ามันขัดWTO แล้วเกิดการร้องเรียน ก็ต้องไปชี้แจง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าวันนี้นักวิชาการศูนย์วิจัยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.)
ออกมาชี้ในประเด็นที่ว่านโยบายดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายจงใจกระทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ โดยจะส่งเรื่องนี้ให้ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาว่า จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 หรือไม่นั้น ตนพูดหลายครั้งว่า ปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นมันแยกไม่ออกในยุคปัจจุบัน แยกไม่ออกจากการออกแบบนโยบาย ซึ่งการทำนโยบายแบบนี้มีความเสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นสูง ซึ่ง ป.ป.ช. มีสิทธิ์เตือน แต่รัฐบาลได้รับฟังการตักเตือนหรือไม่ และมีการป้องกันแค่ไหนหากรัฐบาลเองก็เพิกเฉย ไม่สนใจเลย และถ้าพิสูจน์ต่อมาว่า เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่นขึ้นจริง ตามที่ ป.ป.ช.เคยเตือน ก็น่าคิดว่า รัฐบาลมีเจตนา หรือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ จนปล่อยให้ความเสียหายเกิดขึ้นก็อาจจมีการดำเนินการร้อง ป.ป.ช.ได้.