ถอนประกันแกนนำแดง ได้แต่หวังศาลจะให้ความเมตตา : ขยายปมร้อน โดยโอฬาร เลิศรัตนดำรงกุล
ถอนประกันแกนนำแดง ได้แต่หวังศาลจะให้ความเมตตา : ขยายปมร้อน โดยโอฬาร เลิศรัตนดำรงกุล
“วันที่ 9 สิงหาคม ขอให้พี่น้องมามากกว่าวันที่ 23 กรกฎาคม แสดงออกให้สังคมเห็น ว่า คนเสื้อแดงรักกัน” เป็นคำพูดของแดงตัวแม่ “ธิดา ถาวรเศรษฐ” ประธาน นปช. แถลงข่าวระดมมวลชนเสื้อแดงไปที่ศาลอาญา รัชดาฯ
ทำให้อุณหภูมิการเมืองกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยวันที่ 9 สิงหาคม ศาลอาญาจะมีการพิจารณาสอบถามการขอถอนประกันตัว "จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำ นปช. คดีก่อการร้ายและพวกรวม 24 คน หลังจากเลื่อนมาจากวันที่ 23 กรกฎาคม
จะไม่ให้ร้อนแรงได้ยังไง หากมาดูรายชื่อ บุคคลที่จะไปขึ้นศาลแล้ว มีแต่ตัวท็อปทั้งนั้น และล้วนแล้วแต่ติดคุกติดตะรางมากันทั้งหมดแล้ว และยังมีแฟนคลับเพียบ เรียกได้ว่าถ้าเป่านกหวีด หรือขึ้นเวทีปราศรัยที่ไหน เมื่อไหร่ พ่อยกแม่ยกพร้อมเสมอ
ไม่ว่า "วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, เหวง โตจิราการ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, ขวัญชัย ไพรพนา, เจ๋ง ดอกจิก, นิสิต สินธุไพร, การุณ โหสกุล, วิภูแถลง พัฒนภูมิไท, อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง"
ดูรายชื่อแล้ว เรียกได้ว่า "งานช้าง" เพราะนอกจากแกนนำเสื้อแดงทั้งที่ขึ้นศาล ทั้งไปให้กำลังใจกันเองแล้ว พี่น้องเสื้อแดงตามมาอย่างแน่นอน
ซึ่งประเมินมวลชนที่จะมาให้กำลังใจ หักลบกลบหนี้ ตามที่แกนนำบางคนได้บอกไว้ น่าจะมาไม่ต่ำกว่า 4,000 คน เรียกได้ว่าเส้นรัชดาภิเษก ประชาชนควรหลีกเลี่ยง
หันกลับมาดูท่าทีของแกนนำในคดีนี้กันบ้าง ซึ่งสร้างความแปลกใจให้แก่หลายคน เพราะวันนี้ท่าทีเปลี่ยนไปหลายคนดูอ่อนโยน สุภาพเรียบร้อยไปถนัดใจ ไม่เหมือนคราวที่ออกมาโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างหนัก
นอกจากนี้ยังเรียงหน้าแถลงข่าวชัดๆ ขอร้องมวลชนที่จะไปให้กำลังใจ งดใช้เครื่องเสียง ไม่ให้นำป้ายมา และขอชุมนุมโดยสงบ แม้กระทั่งห้ามนำของมาขายบริเวณหน้าศาล
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ที่แกนนำจะเรียงหน้าออกมาขอร้องมวลชนของตนเอง เพราะหากเกิดความวุ่นวายขึ้นมา ก็ย่อมจะส่งกระทบต่อการวินิจฉัย
แกนนำจึงต้องออกตัวแรง ขอร้องมวลชน เพราะคงไม่มีใครอยากกลับเข้าคุกรอบ 2 แน่ๆ
หากประเมินกันแล้ว สองแนวทางของการวินิจฉัยคือ 1.สั่งถอนประกัน และ 2.ไม่ถูกถอนประกันตัว
แนวทางแรก คาดกันว่า หากถูกถอนประกันจริง คนที่เข้าข่ายจะมี 3 คน คือ "จตุพร พรหมพันธุ์","ยศวริศ ชูกล่อม" หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ "ก่อแก้ว พิกุลทอง" เนื่องจาก พฤติการณ์ของทั้งสามมีน้ำหนัก หลักฐานชัดเจนที่สุด ซึ่งหากเป็นเช่นว่าจริง 2 ใน 3 จะถูกควบคุมตัวทันที คือ "จตุพร" และ "เจ๋ง" ขณะที่ "ก่อแก้ว" นั้นอาจจะสบายตัวเพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองอยู่
อย่างไรก็ตามหากออกหน้านี้ขึ้นมาจริงๆ ก็ดูสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะด้วยมวลชนจำนวนไม่น้อยที่มาให้กำลังใจต้องไม่พอใจ แม้แกนนำจะบอกชัดว่า จะควบคุมมวลชนได้ และคงแสดงออกไม่มากและไม่รุนแรง แต่ก็มีใครกล้ารับรองได้ว่า หากมีการถอนประกันตัวจริงจะเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่ "วรวุฒิ วิชัยดิษฐ" โฆษก นปช. ก็เคยได้แถลงเตือนไว้แล้วว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องโทษศาล
หากถูกถอนประกัน แกนนำที่เหลือคงใช้ทุกทางในการช่วยเหลือพรรคพวกที่ต้องกลับเข้าไปอยู่ในคุกให้ออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเดินหน้าขอประกันตัวอีกครั้ง หรือปลุกระดมมวลชน เพื่อชุมนุมกดดันเช่นที่เคยทำมา
ในทางที่สองถ้าศาลตัดสินให้ไม่ต้องถูกถอนประกันตัว ก็คาดกันว่าน่าจะมีการเพิ่มข้อแม้หรือเงื่อนไขในการประกันตัวมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามคงไม่ถึงขั้นห้ามแกนนำขึ้นเวทีปราศรัย เพราะถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่น่าจะมีกรอบหรือเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งบรรดาแกนนำต้องหารือกับฝ่ายกฎหมายต่อไปเพื่อหาแนวทาง
ปฏิบัติตาม
เช็กเสียงแล้ว "แกนนำแดง" ทั้งหลายยังมั่นใจในแนวทางที่สอง และยืนยันตลอดว่าไม่ได้ผิดหลักเกณฑ์ในการประกันตัว เพราะศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นศาลการเมือง สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ตามหลักวิชาการ ซึ่งเป็นหลักสากล
"อยากให้ศาลเข้าใจว่า ขณะนี้เราเป็นรัฐบาล จึงไม่น่าจะมีเหตุอันใดที่ต้องปลุกปั่นมวลชน" แกนนำคนหนึ่งเล่าให้ฟัง
นอกจากนี้ สิ่งที่แกนนำ หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยเป็นห่วง คือ "มือที่สาม" เพราะหากมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาปะปนกับมวลชน ถ้าเกิดความวุ่นวายขึ้น ความซวยจะตกไปอยู่ที่แกนนำเต็มๆ และส่งผลต่อการถอนประกันอย่างแน่นอน
ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องมาตามดูกันว่า ผลสรุปจะออกมาอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองอย่างแน่นอน และสิ่งที่แกนนำทำได้ในขณะนี้ คือพูดเสียงดังๆ ว่า “ศาลจะให้ความเมตตาและให้ความยุติธรรม”