ยิ่งลักษณ์ไม่เคาะเคอร์ฟิวส์ 3 จว.ใต้

"นายกฯ"ไม่เคาะใช้เคอร์ฟิวส์ใน 3 จังหวัดใต้ ชี้ไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ปัญหา เผยถกวันนี้เพื่อความเป็นเอกภาพ พร้อมขอกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และปชช.

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) โดยใช้เวลาประชุมนาน กว่า2 ชั่วโมงว่า  ที่ประชุมวันนี้ไม่มีการพิจารณาการใช้เคอร์ฟิวส์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ยังค่ะ อันนี้ไม่ได้มีค่ะ อย่างที่เรียนว่าสิ่งต่าง ๆ เราไม่ได้พิจารณาตรงนั้น เพราะว่าในส่วนของการเคอร์ฟิวส์เราดูแต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดกำหนดต้องดูสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วย การใช้ตรงนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสิ่งที่แก้ปัญหา เราต้องทำความเข้าใจก่อน”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการกปต.มีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ

โดยวันนี้มาหารือเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันในรายละเอียดเพื่อเข้าใจบนพื้นฐานเดียวกัน และสืบเนื่องมาจากที่ได้มีการหารือตั้งแต่ต้นเรื่องของ 9 ยุทธศาสตร์ที่แถลงไว้ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) รวมถึงแผนปฏิบัติการทั้งหมด ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดลำดับความสำคัญเร่งดำเนินการและจัดสรรงบประมาณลงในเรื่องของการดูแลเรื่องความมั่นคงความปลอดภัยทั้งหมด

ส่วนที่มีการเสริมศูนย์ปฏิบัติการฯอยู่ภายใต้ศูนย์ของพล.อ.ยุทธศักดิ์ที่มีอยู่แล้วนั้นไม่เป็นการซ้ำซ้อน
 
เพียงเอาเจ้าหน้าที่รับผิดชอบอยู่ แต่ให้ทำงานภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ อันนี้จะทำให้มีความเป็นเอกภาพในการทำงาน แต่การทำงานเรื่องการแก้ปัญหาต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแก้ไขปัญหาให้เสร็จ ไม่ได้หมายความว่าเราจะมาทบทวนแผน

แต่สิ่งที่เราทำคืองานทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบไปด้วยหลายหน่วยงานมากจริง ๆ

ทั้ง 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน ดังนั้นการบูรณาการอย่างเป็นระบบมีความต้องการเป็นอย่างมาก โดยคณะกรรมการฯชุดนี้จะเป็นส่วนในการสนับสนุนไปยังพื้นที่ เพราะเมื่อพื้นที่เกิดความต้องการความช่วยเหลือก็ต้องได้รับการบูรณาการจากกระทรวงลงไปดูแลอย่างเต็มที่

“ดังนั้นเราไม่ลืมในการที่จะดูแลเรื่องของความมั่นคงต่าง ๆ ที่จะพยายามทำให้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันงานพัฒนาการสร้างความเข้าใจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ก็เป็นอีกภารกิจหนึ่งของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและจะร่วมกันติดตามการแก้ไขปัญหาและทำงานให้เกิดความสันติสุข”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวถึงแนวทางที่จะทำให้สถานการณ์ความรุนแรงลดลงว่า
 
ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนว่าบางครั้งเหตุการณ์ต่าง ๆ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ขอความกรุณาช่วยเหลือ คือเราไม่ประมาทแต่ความตกใจมากก็ทำให้ประชาชนเป็นกังวล อันนี้ก็เป็นความห่วงใย บางครั้งปัญหาความมั่นคงก็ไม่สามารถแถลงในรายละเอียดได้ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ลงไปทำงานและขอกำลังใจให้เจ้าหน้าและประชาชนในพื้นที่ด้วย เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเพราะเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน

ส่วนการขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการขอความร่วมมือเรื่องแนวชายแดนอยู่แล้ว การเข้า-ออกต่างๆเป็นเรื่องที่ทำอยู่แล้ว แต่มาตรการพิเศษอื่นๆยังไม่มี