นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชลแนล
ถึงกรณีเหตุการณ์ระเบิดที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องทบทวนหลายสิ่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเรื่องกรอบนโยบายที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอต่อที่ประชุมของสภา ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ในทางกลไกการปฏิบัติได้เดินตามแนวทางนั้นหรือไม่ ซึ่งจากการที่ตนได้พูดคุยกับผู้สังเกตการณ์ นักวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ภาคใต้ ก็ยังยืนยันว่าขณะนี้มันยังมีความจำเป็นที่ต้องซักซ้อมทำความเข้าใจให้ทุกหน่วยงานนั้นเดินตามนโยบายหรือกรอบนโยบายตรงนั้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมันก็มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะแม้กระทั่งใน สมช. เองขณะนี้ หลายคนซึ่งเคยมีโอกาสได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาคใต้ในขณะนี้ ก็ไม่ได้รับโอกาสในการทำงานต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นก็อยากให้รัฐบาลได้ให้ความสนใจ แล้วก็ใส่ใจในการที่จะเข้ามาดูเรื่องนี้
"จริงๆ แล้ว กลไกที่จะเข้ามาดูแลแก้ปัญหาภาคใต้ เราได้มีกฎหมายฉบับใหม่ออกมา ซึ่งมันมีงานระดับชาติ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานรับผิดชอบ อยู่ในกรุงเทพฯ อยู่แล้ว บูรณาการงานทั้งทางด้านการพัฒนา แล้วก็ทางด้านความมั่นคงเข้าด้วยกัน ฉะนั้นกลไกตรงนี้มันไม่ได้ขาด แต่การติดตาม และการไปสัมผัสกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างหาก ที่จะเป็นตัวที่จะทำให้นโยบายหรือยุทธศาสตร์ต่างๆ ฉะนั้นแนวคิดที่บอกตั้งกองบัญชาการส่วนหลังอะไรนั้น ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พูดมาสักระยะหนึ่งแล้ว จริงๆ มันไม่ได้ตอบโจทย์ ถือเป็นการตั้งขึ้นมาเพียงเพื่อบอกว่าได้มีการตอบสนอง หรือปฏิกิริยาต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง ผมอยากให้นายกฯสั่งการให้มีกลไกของฝ่ายนโยบายที่จะเข้าไปดูแล สภาพในพื้นที่จริงๆ ซึ่งก็จะต้องทำงานกับ ศอ.บต. ทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องครับ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับในขณะที่เกิดเหตุระเบิดที่ รร.ซีเอส ปัตตานี แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีงานเลี้ยงฉลองที่ รร.มิราเคิล แกรนด์ และมีการร้องเพลงสุขกันเถอะเรา
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีระมัดระวังในเรื่องของภารกิจต่างๆ ว่าอย่าให้มันเกิดกระทบความรู้สึกในเรื่องที่เป็นความละเอียดอ่อนของสถานการณ์