ปปช.เชือดสุเทพแทรกแซงวธ.ชงถอด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
มติปปช.ชี้ "สุเทพ" ทำผิดต่อหน้าที่ เหตุแทรกแซงกระทรวงวัฒนธรรม ทำหนังสือจี้ให้แต่งตั้ง ส.ส.ช่วยราชการ ชงวุฒิสภาถอดถอน ขณะที่ "อภิสิทธิ์" รอด ตั้ง "สุเทพ" เป็น ปธ.กตร.ไม่ขัดกฎหมาย ยกสมัย "ทักษิณ" เทียบ
26ก.ค.2555 นายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช. แถลงมติ ปปช.ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 ถึง รมว.วัฒนธรรม ส่ง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์และบุคคลอื่นรวม 19 คนไปช่วยราชการที่กระทรวงวัฒนธรรม เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 268 และ 266 (1) ของรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นว่า ปปช.เห็นว่า มีการส่งหนังสือดังกล่าวจริง
โดยหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2552 นายสุเทพได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับหนังสือคืนจากกระทรวงวัฒนธรรม แต่ปปช.ถือว่าการส่งหนังสือไปก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว จึงเห็นว่าเป็นการกระทำความผิดจริง เพราะการทำหนังสือดังกล่าวทำในนามรองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเข้าข่ายการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของ รมว.วัฒนธรรม และยังเห็นว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพรรคการเมืองไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่ง ปปช.จะส่งเรื่องถอดถอนไปที่วุฒิสภาให้ลงมติต่อไป สำหรับ ส.ส. 19 คนที่เกี่ยวข้องไม่เข้าข่ายกระทำผิด เพราะไม่รับรู้และยังไม่มีการช่วยราชการเกิดขึ้น เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นอำนาจหน้าที่รองนายกฯเท่านั้น
นอกจากนี้ ปปช.ยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการ 11 คณะ ตรวจสอบ 11 หน่วยงานที่มีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีทีสองร้อย และอัลฟ่า 6 ตามที่ดีเอสไอส่งเรื่องมาด้วย
นายกล้าณรงค์ กล่าวต่อว่า ปปช.ยังได้พิจารณากรณีส.ส.เพื่อไทยยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพออกจากตำแหน่ง โดยยกคำร้องกรณีที่มีการกล่าวหานายอภิสิทธิ์แต่งตั้งนายสุเทพเป็นประธาน กตช. และ กตร. ส่อขัดต่อกฎหมาย เพราะนายสุเทพได้ประชุมเป็นประธาน กตร.อย่างน้อย 4 ครั้ง โดย ปปช. เห็นว่า นายอภิสิทธิ์มีสิทธิ์แต่งตั้งได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีมอบอำนาจให้แก่บุคคลอื่นปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่งเป็นไปตาม พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 17 วรรค 1 และมาตรา 30 วรรค 1
อีกทั้งในช่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีคำสั่งสำนักนายกฯมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ ประธาน กตร.และประธาน กตช.มาแล้ว จึงไม่มีการใช้อำนาจที่ผิดต่อกฎหมาย มีมติยกคำร้องให้ข้อกล่าวหาตกไป
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!