เปิดตัว 3 พยานไทยรักไทยโกงเลือกตั้ง!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2549 14:25 น.

เปิดตัวพยานปากเอก 3 คน ที่ออกมาเปิดโปรงเส้นทางขบวนการทุจริตการเลือกตั้งด้วยการจ้างวานพรรคเล็กลงรับสมัครส.ส. ประกอบด้วยนายชวการ โตสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข7 เขต29 บางกอกน้อย ของพรรคพัฒนาชาติไทย นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย

สุเทพ เปิดโฉม 3 พยานปากเอก แฉขบวนการจ้าง พรรคนอมินี ลงเลือกตั้ง ให้เวลา ทักษิณ 24 ชั่วโมงรีบจัดการด่วน ขู่แฉเพิ่มรองหัวหน้า ทรท.มีเอี่ยวเพียบ ฉะกกต.หมดเวลาเล่นลิ้นรับกลับใจ กวาดบ้านตัวเองก่อนที่จะถูกยกเลิก ท้าอีกเมื่อไหร่จะฟ้องหากช้าเดี๋ยวฟ้องเอง

วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำตัวพยานปากเอก 3 คนที่ออกมาเปิดโปรงเส้นทางขบวนการทุจริตการเลือกตั้งด้วยการจ้างวานพรรคเล็กลงรับสมัคร ส.ส. ประกอบด้วยนายชวการ โตสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 7 เขต 29 บางกอกน้อย ของพรรคพัฒนาชาติไทย นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย และน.ส.มณฑิราพร พิมพ์จันทร์ ผู้ช่วยนายสุขสันต์

นายชวการ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นประธานเครือข่ายผู้ประกบอากรอุตสาหกรรมสุราแห่งประเทศไทย และเคยร่วมก่อตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย ในปี 46 และในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 48 ที่ผ่านมาโดยมีการเคลื่อนไหวทางมวลชนตลอดมา และเมื่อมีการยุบสภาในฐานะที่มีเครือข่ายทั่วประเทศก็ได้รับการประสานงานจากคนสนิทของผู้ใหญ่ในพรรคไทยรักไทยให้เข้ามาดำเนินการหาพรรคเล็ก 2-3 พรรค เพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากเกิดปัญหาพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ลงสมัครที่อาจเกิดปัญหาได้ และเป็นโอกาสที่จะให้พรรคเล็กได้ชัยชนะโดยจะให้งบสนับสนุนทั้งหมด ตนจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะเข้ามาทำงานทางการเมือง จึงตกลงรับงานนี้

นายชวการ กล่าวต่อว่า จากนั้นอีก 2-3 วันก็ได้รับการติดต่อจากผู้ประสานงานใกล้ชิดผู้ใหญ่ในพรรคไทยรักไทยเข้าพบ ซึ่งขณะนั้นตนเองอยู่หาดใหญ่จึงได้รีบเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ที่พรรคไทยรักไทยถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยไปรอพร้อมกับผู้ประสานงานอีก 2-3 คนที่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ในวันที่ 2 มี.ค. เวลา 2 ทุ่มเศษที่ห้องประชุมติดกับห้องทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์ โดยการหารือให้ส่งผู้สมัครลงพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ของพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด และพื้นที่ จ.สระแก้ว สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี อ่างทอง

นายชวการ กล่าวว่า เมื่อทราบนโยบายชัดเจนตนก็เริ่มดำเนินการติดต่อกับนายสุขสันต์ เพื่อทำงานติดต่อพรรคพัฒนาชาติไทย โดยในคืนวันที่ 2 มี.คงได้มีการพบกับหน้าพรรค คือ นายทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ ที่โรงแรมกานต์มณี จากนั้นได้มีการตั้งกองบัญชาการและเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 3-8 มี.ค. โดยการเคลื่อนไหวหาตัวผู้สมัคร ส.ส.กว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งตัวจริงและไม้ประดับ โดยได้แฟกซ์เอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการสมัครมาให้ที่โรงแรมดังกล่าว และมอบให้นายสุขสันต์ และน.ส.มณฑิราพรไปดำเนินการทั้งระบบเขตเลือกตั้ง และบัญชีรายชื่อ ส่วนกระบวนการใช้จ่ายเงินเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ในวันสุดท้ายของการรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ โดยตนได้เดินทางไปรับค่าใช้จ่ายจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ ที่กระทรวงกลาโหม เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นเงินสด 5 หมื่นบาท มาให้กับหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ที่สนามกีฬาแห่งชาติ และจับได้เบอร์ 7

พยานปากเอก แฉต่อว่า จากนั้นได้กลับมาที่โรงแรมกานต์มณีเพื่อจัดทำผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งลงในพื้นที่เป้าหมาย โดยตนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งในวันที่ 6 มี.ค.รับทราบว่ามีผู้รับสมัครจริง 33 เขต และในช่วงบ่ายมีคนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์ได้พาตนไปที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีนายทหารยกมือไหว้ ตนรู้สึกว่านายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา และได้นำเงินมาให้ 2.4 แสนบาท แต่เงินไม่พอใช้ จากนั้น 3-4 ชั่วโมงได้นำเงินมาให้อีก 5.2 แสนบาท จึงแบ่งเงินใส่ซองๆ ละ2 หมื่นบาท จำนวน 38 ซอง ให้ผู้สมัคร 33 ซอง ส่วนอีก 5 ซองเป็นค่าใช้จ่ายของคณะทำงานและตนด้วย ส่วนที่เหลืออีก 7 เขต คือในนครพนม 5 เขต และสกลนคร 2 เขต ตนได้โอนเงิน 1.4 แสนให้นายสุขสันต์ โดยตนได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาประดิพัทธ์ จากนั้นตนได้เดินทางไปต่างจังหวัด และก็ได้รับการติดต่อให้มาลงสมัครในเขต 29 บางกอกน้อย โดยได้รับการยืนยันว่าไม่ต้องไปทำอะไรจนถึง 10 วันสุดท้าย เพราะจะมีผู้ใหญ่ไปช่วยจัดการให้ รวมถึงจะได้เป็นประธานกรรมาธิการบางขณะซึ่งตนก็ตกลงรับคำ

เอกสารทั้งหมดได้มอบให้กับนายสุเทพแล้ว โดยเหตุผลที่นำมาบอกเพราะกลัวความปลอดภัยเพราะเริ่มมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงที่ว่าจะให้ 1 แสน 3 แสน 5 แสน และ1 ล้านบาท ซึ่งเป็นชื่อผมทั้งสิ้น และเมื่อทบทวนดูแล้วสิ่งทีทำลงไปทั้งหมดเป็นความผิดทางกฎหมายจึงกลัวความผิด และหันมาขอพึ่งคุณสุเทพเพราะเห็นว่าเป็นที่ไว้ใจได้เพื่อฝากความปลอดภัยของชีวิตและครอบครัวในการต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ที่สำคัญผมเป็นคนเดือนตุลาควรมีความรับผิดชอบจึงต้องการต่อสู้ระบบทักษิณ โดยครั้งแรกที่ตัดสินใจลงสมัครเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นโอกาส แต่หลังจากมาสมัครแล้วจึงไม่ต้องการเป็นเสาเข็มให้ระบอบทักษิณเข้มแข็ง ผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคเล็กทั้งหลายที่ทำงานให้เขาถอนตัวเถอะครับ เพื่อเสียสละเพื่อช่วยประเทศชาติ และแผ่นดิน

ด้าน นายสุขสันต์ กล่าวว่า ตนเองได้รับการประสานจากนายชวการเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 49 ในการร่วมมือกันหาตัวผู้สมัครในพื้นที่เป้าหมาย โดยนายชวนการได้โทรศัพท์ไปหาตนที่นครพนมเพื่อให้กลับกรุงเทพฯ พร้อมกับนายทวีศักดิ์มาพบกันที่ห้อง 426 โรงแรมกานต์มณี เพื่อวางแผนปฏิบัติงาน ต่อมาในวันที่ 3-6 ได้รับเอกสารผู้สมัครโดยมีผู้ช่วยประสานงาน คือ น.ส.มณฑิราพร ทำหน้าที่กรอกใบสมัครทั้งหมด โดยเว้นวันและหมายเลขรหัสประจำตัวผู้สมัครไว้ ด้วยการนำเอกสารแฟกซ์ไปลบหมายเลขโทรศัพท์ออก จากนั้นในคืนวันที่ 6 ตนได้รับแผ่นดิสก์จาก กกต.เพื่อนำมาแก้ไขสมาชิกพรรค โดยสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทยที่รายงานต่อ กกต.เมื่อสิ้นเดือนมกราคม 49 จำนวน 500 คน และได้มีการเปลี่ยนข้อมูลที่ห้อง 203 โรงแรมเดียวกัน และได้นำรายชื่อผู้สมัครเข้าไปสวมในฐานข้อมูลสมาชิกพรรคเดิม จำนวน 86 ราย แต่ยังคงเหลือหมายเลขสมาชิกภาพไว้ จากนั้นได้นำส่ง กกต.ในช่วงดึกของวันที่ 6 มี.ค.และในช่วงเช้าวันที่ 7 มี.ค. ได้ให้ น.ส.มณฑิราพรเข้าไปตรวจดูรายชื่อที่แก้ไขไว้ในอินเทอร์เน็ตร้านข้างโรงแรมซอย 19 เวลาประมาณ 09.00-10.00 น. ปรากฏว่าทั้ง 86 คนเป็นสมาชิกภาพถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นให้หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย เซ็นรับรองการเป็นสมาชิกพรรค และมีการจ่ายเงินโดยคณะทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์ ให้หัวละ 2 หมื่นบาท

นายสุขสันต์ กล่าวว่า พอถึงวันที่ 8 มี.ค.เหลือผู้สมัครอีก 7 เขต คือ นครพนม 5 เขต สกลนคร2 เขต ซึ่งมีการโอนเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขานครพนม จำนวน 1.4 แสนบาท แต่คณะทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์แจ้งว่าจะไม่ส่งผู้สมัครลงทั้ง 5 เขต และที่สกลนครก็มีผู้สมัครเรียบร้อยแล้วตนจึงไม่ส่งและได้โอนเงินกลับในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งเอกสารแฟกซ์การรับสมัครทั้งหมดรวมถึงหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งตนได้มอบให้กับนายสุเทพแล้ว เพราะเกรงว่าจะมีความไม่ปลอดภัยผิดกฎหมายจึงต้องนำเรื่องมาร้องเรียนเพื่อให้รับช่วยเหลือเพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค.47 ตนเองก็เคยถูกเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านมาแล้ว

ขณะที่ น.ส.มณฑิราพร ยอมรับว่า เป็นคนกรอกใบสมัครและเตรียมหลักฐานให้ผู้สมัครทั้ง 86 ราย ซึ่งมีตัวจริง 33 เขต และไม้ประดับอีก 53 คน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีว่า อย่าคิดมาประทุษร้ายเอาชีวิต และครอบครัวของพยาน เพราะตนจะไม่ยินยอมอีกต่อไป จะพยายามดูแลอย่างเต็มที่ หากพยานเหล่านี้เป็นอะไรไป ทั้งหมดก็อยู่ประเทศไทยไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม จะยังไม่เปิดเผยว่า กกต.คนไหนมีส่วนร่วม เพราะจะให้โอกาส กกต.โดยเฉพาะพล.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ให้คิดถึงศักดิ์ศรีและองค์กรของตัวเอง ด้วยการลุกขึ้นมาทำความสะอาด สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าเป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ไม่อยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ โดยตนได้มอบหมายให้นายเทพไท เสนพงษ์ นำเอกสารเหล่านี้ไปมอบให้ กกต.เพื่อรีบดำเนินการ

ฝากไปถึงเลขาธิการ กกต.หยุดพูดได้แล้ว เพราะถูกประจานทั้งประเทศยังไม่รู้จักอับอาย หมดเวลาเล่นลิ้นแล้ว แทนที่จะกลับไปตรวจดูว่าแผ่นดิสก์หลุดออกมาได้อย่างไร และเรียกร้องไปถึงคนที่สั่งการให้เข้าหน้าที่ทำควรสำนึกได้แล้วเพราะโตๆ กันแล้ว หาก กกต.ยังไม่ทำอะไรถึงคราวต้องเลิก กกต. และผมจะให้เวลาท่านนายกฯ 24 ชั่วโมง ถ้ายังไม่ทำอะไรผมจะเปิดเผยรายชื่อรองหัวหน้าพรรคคนอื่นที่ดำเนินการแบบนี้กับพรรคเล็กๆ อีกหลายพรรค ถ้าท่านยังเชื่อหมอมิ้ง หรือลิ่วล้อ หรือมั่วแต่ไปทำไสยศาสตร์กับเนวิน หยุดได้แล้ว ให้กลับมาดูแลบ้าน การขี่ช้างงาไม่ทำให้ชนะหรอก ให้กลับมาดูของจริงยังมีอีกเยอะ กำลังรวบรวมอยู่ ส่วนที่ขู่ว่าจะฟ้องผมก็รีบฟ้องมาเลย มัวแต่เงื้อง่ารำพึงรำพันอยู่นั่น ไม่เช่นนั้นผมจะฟ้องเอง นายสุเทพ กล่าว