“ศิริโชค” โชว์ สด.20 ยันผลสอบปี 42 บกพร่อง

ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวไทยขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวไทย

พรรคประชาธิปัตย์ 24 ก.ค.- “ศิริโชค” นำ สด.20 ยืนยันผลสอบปี 2542

ที่ระบุ “อภิสิทธิ์” หนีทหารบกพร่อง เหตุเอกสารไม่ครบ และกรรมการยังยอมรับกลางศาลว่าเป็นเพื่อน “จตุพร” ย้ำการเผยข้อมูลไม่ครบ เพื่อหวังผลการเมือง โฆษกพรรคชี้รัฐบาลทำงานล้มเหลวจึงนำเรื่องเกณฑ์ทหารมากลบเกลื่อน

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นำเอกสาร สด.20 ซึ่งเป็นบัญชีการผ่อนผันนักศึกษาที่ไปเรียนต่างประเทศมายืนยันว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้หนีทหาร และผลการสอบสวนเรื่องนี้เมื่อปี 2542 ที่ระบุว่านายอภิสิทธิ์มีความผิดนั้น เป็นการสรุปโดยขาดเอกสารสำคัญ อีกทั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งเป็นพยานในศาลของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง คือ พ.อ.สมโชค ไกรศิริ ยอมรับกลางศาลว่าเป็นเพื่อนกับนายจุตพร ตั้งแต่ปี 2530 จึงทำให้เชื่อว่าผลการสอบสวนไม่เป็นกลาง คณะกรรมการยังยอมรับด้วยว่า ตอนที่สอบไม่มีเอกสารสำคัญ คือใบ สด.20 และใบผ่อนผันที่ลงนามโดย พ.ต.ไพโรจน์ แก้ววงศ์ ผู้ช่วยสัสดี มายืนยัน ซึ่งหากมีก็จะทำให้ผลการสอบสวนเปลี่ยนแปลง

นายศิริโชค ยังนำเอกสารที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ที่ตอบนายกมล บันไดเพชร ว่านายอภิสิทธิ์ เข้ารับราชการทหารถูกต้องตามระเบียบทุกประการ และมีสิทธิได้รับยศ เบี้ยหวัด และติดยศร้อยตรี จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลที่คนเสื้อแดงออกมาเปิดเผยเอกสารการสอบสวนปี 2542 ที่ไม่ครบถ้วน ก็เพื่อหวังผลทางการเมือง และช่วยเหลือนายจตุพรในการต่อสู้คดีหมิ่นประมาท

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า

รัฐบาล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงหยิบยกเรื่องอื่นขึ้นมากลบเกลื่อน โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหาร ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับประชาชนคนอื่น และต้องขอบคุณผู้บัญชาการทหารบก ที่ออกมาแถลงว่าคดีจบไปตั้งแต่ปี 2542 และขอให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่าง อย่ายอมตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองทำร้ายฝ่ายตรงข้าม

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  เช้าวันนี้ (24 ก.ค.) ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ลุมพินี กรณีร้องหมิ่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
 
ซึ่งเรื่องนี้เจ้าพนักงานไม่สามารถบอกได้ว่าข้อความไหนที่หมิ่นประมาท จนผ่านไป 3 เดือน และรู้สึกแปลกใจที่เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) มีหมายเรียกออกมา แต่ก็เข้าใจเพราะโจทก์คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงอยากฝากตำรวจจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่เครื่องมือของนักการเมือง และหากตำรวจเป็นที่พึ่งไม่ได้ จุดนี้จะกลายเป็นความขัดแย้งในสังคมไทย ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าคดีที่มีการขับไล่จะทำร้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับไม่มีการดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์