สนธิ หวนคืน(หลัง)ไมค์ (แบบ)ไร้การเมือง

"สนธิ ลิ้มทองกุล" หวนคืนหลังไมค์อีกครั้ง


ที่วิทยุเอฟเอ็ม 97.75 "คลื่นยามเฝ้าแผ่นดิน" ใน "ชั่วโมงนี้ไม่มีการเมืองฯ" ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน เจ้าตัวยืนยันจะตอบทุกเรื่องทั้งอาหาร การศึกษา ท่องเที่ยว ฯลฯ

เชื่อมั่นประสบการณ์ที่โชกโชนของชีวิตจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง

ขยับตัวอย่างต่อเนื่องสำหรับวิทยุชุมชน


"คลื่นสามัญประจำบ้าน เอฟเอ็ม 97.75" ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอีกครั้งเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ของบ้านเมืองที่เปลี่ยนไป ภายใต้ชื่อของ "คลื่นยามเฝ้าแผ่นดิน" ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สำหรับสาเหตุและรายละเอียดของการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้

"สนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันและเป็นบุคคลสำคัญในการก่อตั้ง "มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน" ซึ่งกำลังได้รับการพูดถึงและถูกจับตาเป็นอย่างมากในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่แสดงถึงการพัฒนาทางการเมืองภาคประชาชนอย่างแท้จริง

โดยเปิดเผยว่า


"เพราะมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน จำเป็นที่จะต้องมีสื่อ ผมคิดว่าคลื่น 97.75 นั้นเดิมที่เป็นคลื่นสามัญประจำบ้านก็เป็นคลื่นคุณภาพอยู่แล้ว เราก็ใช้คลื่นอันนี้เปลี่ยนเป็นคลื่นยามเฝ้าแผ่นดิน เพราะจริงๆแล้วมิติของยามฯ มีหลายอย่าง

ยามก็ฟังเพลงได้นะ

รายการสุขภาพเพื่อยามฯ ก็มีเหมือนเดิม เพียงแต่เราจะเพิ่มในส่วนที่คนที่เป็นยามฯ สามารถจะเข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่ายทางสื่อมวลชนเราได้"

เราอาจจะเปิดสายให้เข้ามา

อาจจะเป็นชั่วโมงยามรายงานภัย ภัยนี่มีได้ทุกอย่าง อาจจะกำลังเกิด หรือเคยเกิดขึ้นมาแล้ว และบอกว่า กำลังจะเกิดในอนาคต และภัยก็มีหลายแบบ ภัยที่มีต่อสุภาพสตรี ภัยที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ภัยที่มีต่อรากเหง้าวัฒนธรรม ภัยที่มีต่อเด็ก มันทำได้หมด"

นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนเวลาบางส่วนของรายการที่มีอยู่


รวมถึงรายการใหม่ที่มีเข้ามาซึ่งทำให้คลื่นยามเฝ้าแผ่นดินเข้มข้นขึ้นทั้งในส่วนที่เป็นข่าว เนื้อหาสาระ และความบันเทิงแล้ว ที่ถือเป็นไฮไลท์ก็คือการเข้าทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการของสนธิ ลิ้มทองกุลเอง ในรายการที่มีชื่อว่า "ที่นี่ไม่มีการเมือง

คุยทุกเรื่อง กับ สนธิ ลิ้มทองกุล ช่วงเวลาตั้งแต่ 23.00-24.00 น. ทุกๆ วันจันทร์ - ศุกร์ นั่นเอง

มีคนพูดมาบ้างมั้ย


"ก็คนเขาพูดกันมานานแล้ว เขาคิดว่าผมจะต้องพูดแต่เรื่องการเมือง แต่เขาไม่เข้าใจว่า จริงๆ แล้วชีวิตผม ปีนี้ 60 แล้ว ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก

ผมผ่านโลกนี้มา เดินทางเยอะเหลือเกิน

ไปพบปะผู้คนก็มาก ผ่านการล้มเหลวในชีวิตก็หลายครั้ง เป็นบุคคลล้มละลายก็เป็นมาแล้ว ถูกดำเนินคดีมาเป็นสิบๆ คดี หลายต่อหลายอย่างอันนี้มันเป็นประสบการณ์ชีวิต และผมก็มีลูกซึ่งอายุ 32 และผมก็มีหลานเยอะ

ซึ่งเป็นคนหนุ่มคนสาว และผมเป็นคนที่เปิดกว้าง... ผมจะเข้าใจเรื่องราวของสังคมที่ไม่ใช่การเมือง ไม่ได้ด้อยไปกว่าการเมือง"

สนธิขยายความต่อว่า


" ผมให้คำปรึกษาได้หมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การเรียนหนังสือ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย เช่น ถ้าผู้ชายคนหนึ่งไปทำผู้หญิงท้อง เด็กท้อง

แล้วทำอย่างไรดี

จะทำแท้งดีไม่ดี อะไรอย่างนี้ มันจะต้องหาทางออกให้เขาในลักษณะที่มีเหตุมีผล และมีศีลธรรม และในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะเปิดโอกาสให้เขาเดินหน้าต่อไปในชีวิตเขาได้ ให้กำลังใจเขา"

เพราะฉะนั้นแล้ว ผมก็เลยคิดว่า


"เมื่อเปิดคลื่นยามเฝ้าแผ่นดินแล้ว ผมก็ควรจะมาจัดรายการที่นี่ทุกวันเพื่อทำหน้าที่นี้ให้กับสังคมตั้งเอาไว้ประมาณวันละ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดมันขึ้นมา ก็อาจจะต่อไปอีกเป็นเที่ยงคืนครึ่ง (00.30น.)

เพราะผมยินดีที่จะตอบคำถาม

ไม่ว่าจะเป็นมีลูกอายุเท่านี้ อยากเรียนหนังสือ ควรจะเรียนอะไรดี หรือหนูจบปริญญาตรีแล้ว หนูอยากจะต่อโท หนูควรจะต่อโทด้านไหน"

มั่นใจแม้จะเป็นวิทยุชุมชนแต่ก็มีศักยภาพที่จะส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ


ออกไปได้ในวงกว้าง ผ่านทาง www.managerradio.com หรือแม้กระทั่งสามารถฟังได้ผ่านจานดาวเทียม ASTV ซึ่งสนธิกล่าวว่า เขายินดีที่จะตอบและรับฟังปัญหาจากคนไทยทั่วโลก

ส่วนคำถามที่ว่าในรายการนั้นจะไม่คุยเรื่องการเมืองสักนิดเลยหรือ? เจ้าตัวบอกว่าหากเป็นเรื่องที่จำเป็นก็คงจะต้องคุย...

เรื่องการเมืองถ้าผู้ฟังถามมาก็ต้องดูเป็นกรณีไป

ถ้าถามในเรื่องที่ตัวเขาเองไม่เข้าใจ แล้วมีความรู้สึกว่า ถ้าไม่อธิบายแล้ว ก็จะไม่เข้าใจต่อไป ผมก็ต้องอธิบายให้ฟัง เพราะผมมีหน้าที่นำเทียนแห่งปัญญาจุดให้กับทุกท่านครับ..."

สำหรับใครที่อยากจะร่วมสนทนาหรืออยากจะรู้ว่า

"หัวหน้ายาม" คนนี้จะตอบจะคุยได้ทุกเรื่องหรือไม่? เปิดรายการฟังและโทรศัพท์เข้าไปได้ที่หมายเลข 0-2629-4480-3


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์