ยิ่งลักษณ์เยือนเยอรมนี หารือโอกาสทางธุรกิจท่ามกลางวิกฤตหนี้ยุโรป

น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภารกิจการเดินทางเยือนประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า

 เมื่อเวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่โรงแรมแอดลอน เคมพินสกี น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทย ระหว่างอาหารเช้า ประกอบไปด้วย ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร สำนักงานแรงงาน สำนักงานส่งเสริมการค้า สำนักงานการท่องเที่ยว

 นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนเยอรมนี ซึ่งนับเป็นการเยือนในรอบ 17 ปี
 
และแสดงถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยที่เยอรมนีถือเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เป็นตลาดใหญ่รวมทั้งเพื่อให้ฝ่ายเยอรมนีตระหนักถึงความสำคัญของไทย และไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเยอรมนี เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ และเพิ่มมูลค่าการค้าให้เติบโตยิ่งขึ้น

 โดยถือว่าวิกฤติของเศรษฐกิจยุโรป จะเป็นโอกาสของไทย และจะต้องสนับสนุนให้มีการเดินหน้าการค้าและการลงทุน
 
ด้วยศักยภาพของไทยและอาเซียนที่เป็นตลาดที่กำลังเติบโต รวมถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ พัฒนาการและเสถียรภาพทางการเมือง โดยขอให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันทำงาน เพื่อสร้างโอกาสและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อไป


ยิ่งลักษณ์เยือนเยอรมนี หารือโอกาสทางธุรกิจท่ามกลางวิกฤตหนี้ยุโรป

โอกาสนี้ ทีมประเทศไทยบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์และนโยบายการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปของเยอรมนี

รวมทั้งจุดยืนและสถานะของไทยในสายตาของเยอรมนี และโอกาสที่มีอยู่ โดยจะใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสของไทยในยุโรป ซึ่งขณะนี้ เยอรมนีให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียน และเล็งเห็นว่าไทยมีศักยภาพที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง แม้ผ่านวิกฤติทางการเมืองและภัยธรรมชาติที่ผ่านมา ไทยสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมียนมาร์ ซึ่งเป็นประเทศที่เยอรมนีสนใจเข้ามามีส่วนร่วมทางการค้า การลงทุน และพลังงาน

 ทั้งนี้ ไทยมีจุดเด่นทางด้านภูมิศาสตร์ ถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียนที่จะเชื่อมโยงไปประเทศต่างๆในภูมิภาค

อีกทั้ง มีการพัฒนาการเชื่อมโยง โดยเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ที่จะเป็นการเชื่อมโยงที่สำคัญของภูมิภาค ซึ่งไทยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและผลักดันโครงการดังกล่าว และเยอรมนีมีความสนใจในโครงกรนี้

 นอกจากนี้ ยังชี้แจงถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทางการค้าและการลงทุนของไทยในเยอรมนี เช่น
 
การตรวจสอบมาตรฐานการนำเข้าสินค้าของไทย โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีคณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร เร่งแก้ปัญหาโดยให้ผู้เชี่ยวชาญของเยอรมนีไปให้ความรู้และปรับมาตรฐานต่างๆให้ตรงกันและเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งการเข้มงวดในการออกใบรับรองคุณภาพสินค้าให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการตีกลับสินค้าด้วย

 จากนั้น นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมหารือกับคณะนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำในสาขาเกษตรและอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ พลังงาน เศรษฐกิจสีเขียว การแพทย์ทางเลือก และการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า สิ่งทอ อัญมณี เครื่องประดับ และเครื่องแต่งกาย รวมทั้งผู้แทนสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า สมาคมธนาคารไทย ตลอดจนสมาคมอื่นๆ ที่เดินทางร่วมไปกับคณะทางการ

 นายกรัฐมนตรีได้รับฟังทีมประเทศไทย และได้ทราบถึงปัญหาและโอกาสในการลงทุนของภาคเอกชนในเยอรมนี

จึงได้นำมาพูดคุยกับภาคเอกชน เพื่อให้เป็นประโยชน์ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอ และของภาคเอกชนไทยในด้านการลงทุนและการประกอบธุรกิจกับเยอรมนี โดยเฉพาะสาขาที่มีโอกาสทางการค้า เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ สินค้าตกแต่งบ้าน ของขวัญ รวมถึงการขอความร่วมมือในด้านการพัฒนาและรับรองมาตรฐานสินค้าที่จะสามารถทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการรับรองมาตรฐานยางรถยนต์ในภูมิภาค

 ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าพบนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนี ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงเบอร์ลิน เพื่อหารือถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศในด้านต่างๆ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์