ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชัดแก้มาตรา291 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองตามที่ผู้ร้องกล่าวหาเวลา 14.45 น. ศาลรธน.เริ่มอ่านคำวินิจฉัยประเด็นแรกศาลมีอำนาจรับคำร้องหรือไม่ศาลเห็นว่า ม.68 วรรค2 ให้สิทธิผู้ทราบการกระทำมีสิทธิเสนอ อสส.-ศาลรัฐธรรมนูญ อัยการสูงสุด มีสิทธิเพียงตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ตัดสิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญ และการกระทำดังกล่าวยังไม่ได้บังเกิดผล ศาลมีอำนาจสั่งระงับการกระทำได้
ให้ชนชาวไทยทุกคนมีส่วนปกป้องระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนต่อต้านโดยสันติวิธี ป้องกันการกระทำได้อำนาจปกครองโดยมิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นเจตนารมณ์หลัก กรณี อสส.ตรวสจสอบแล้วแต่ไม่มีคำสั่งใดจาก อสส.หากปล่อยให้ลงมติวาระ3 แม้ต่อมาอสส.ร้องให้เลิกการกระทำ ก็ไม่ทำให้ย้อนคืนได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคดี
ประเด็นที่ 2 แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ รัฐธรรมนูญได้ผ่านการลงมติจากประชาชน จึงเป็นเจตนารมณ์ของประชาชน จึงต้องให้ประชาชนผู้สถาปนารัฐธรรมนูญนี้เห็นชอบก่อนการแก้มาตรา 291 แม้เป็นอำนาจของรัฐสภา แต่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่ลงประชามติ แต่หากรัฐสภาจะไปแก้เป็นรายมาตรา สามารถทำได้ รัฐสภา ยังไม่ได้ลงมติวาระ 3 ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะล้มล้างการปกครอง การตั้งส.ส.ร.ยังไม่เป็นรูปธรรม
กระบวนการยกร่าง หากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วมีลักษณะการล้มล้างการปกครอง ผู้ทราบการกระทำนั้น
ยังมีสิทธิยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ได้อีก ผู้ถูกร้องแสดงเจตคติตั้งมั่นว่าจะดำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยพิจารณาแล้ว เป็นเพียงอ้างเป็นเพียงการคาดการณ์ และห่วงใยพระมหากษัตริย์ การกระทำของผู้ถูกต้อง ทั้ง 6 ไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นที่ 4 พิจารณาให้ยกคำร้อง
สรุปศาลวินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองฯ ศาลให้แนวทางไว้ว่า แก้ทั้งฉบับไม่ได้ แต่แก้รายมาตราได้ และต้องประชามติก่อน ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองตามที่ผู้ร้องกล่าวหา
ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งให้ยกคำนร้องของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ร้องในลักษณะเดียวกัน แล้วแจ้งให้พล.ต.จำลอง ทราบ
เวลา 14.45 น. ศาลรธน.เริ่มอ่านคำวินิจฉัยประเด็นแรกศาลมีอำนาจรับคำร้องหรือไม่ศาลเห็นว่า ม.68 วรรค2 ให้สิทธิผู้ทราบการกระทำมีสิทธิเสนอ อสส.-ศาลรัฐธรรมนูญ อัยการสูงสุด มีสิทธิเพียงตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ตัดสิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญ และการกระทำดังกล่าวยังไม่ได้บังเกิดผล ศาลมีอำนาจสั่งระงับการกระทำได้
ให้ชนชาวไทยทุกคนมีส่วนปกป้องระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนต่อต้านโดยสันติวิธี ป้องกันการกระทำได้อำนาจปกครองโดยมิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นเจตนารมณ์หลัก กรณี อสส.ตรวสจสอบแล้วแต่ไม่มีคำสั่งใดจาก อสส.หากปล่อยให้ลงมติวาระ3 แม้ต่อมาอสส.ร้องให้เลิกการกระทำ ก็ไม่ทำให้ย้อนคืนได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคดี
ประเด็นที่ 2 แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่ รัฐธรรมนูญได้ผ่านการลงมติจากประชาชน จึงเป็นเจตนารมณ์ของประชาชน จึงต้องให้ประชาชนผู้สถาปนารัฐธรรมนูญนี้เห็นชอบก่อนการแก้มาตรา 291 แม้เป็นอำนาจของรัฐสภา แต่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่ลงประชามติ แต่หากรัฐสภาจะไปแก้เป็นรายมาตรา สามารถทำได้ รัฐสภา ยังไม่ได้ลงมติวาระ 3 ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะล้มล้างการปกครอง การตั้งส.ส.ร.ยังไม่เป็นรูปธรรม
กระบวนการยกร่าง หากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วมีลักษณะการล้มล้างการปกครอง ผู้ทราบการกระทำนั้น
ยังมีสิทธิยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ได้อีก ผู้ถูกร้องแสดงเจตคติตั้งมั่นว่าจะดำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยพิจารณาแล้ว เป็นเพียงอ้างเป็นเพียงการคาดการณ์ และห่วงใยพระมหากษัตริย์ การกระทำของผู้ถูกต้อง ทั้ง 6 ไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นที่ 4 พิจารณาให้ยกคำร้อง
สรุปศาลวินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองฯ ศาลให้แนวทางไว้ว่า แก้ทั้งฉบับไม่ได้ แต่แก้รายมาตราได้ และต้องประชามติก่อน ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองตามที่ผู้ร้องกล่าวหา
ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งให้ยกคำนร้องของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ร้องในลักษณะเดียวกัน แล้วแจ้งให้พล.ต.จำลอง ทราบ